เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ในยุคปัจจุบันนี้จะหาบ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ยากขึ้นทุกวัน เพื่อความสะดวก คล่องตัว และง่ายต่อไลฟ์สไตล์ปัจจุบันที่นิยมเข้ามาทำงานกันในเมืองใหญ่ ครอบครัวขนาดเล็กที่มีแค่พ่อแม่ลูก จึงผุดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ใช่ว่าด้วยจำนวนสมาชิกที่ลดลง จะช่วยให้คนในครอบครัวสนิทสนมกันมากขึ้น เพราะด้วยสภาพบังคับหลายอย่างในยุคปัจจุบันที่พ่อแม่ต้องทำงานหนัก ซื้อกับข้าวนอกบ้าน ลูก ๆ ออกไปเรียนแต่เช้า เวลาที่เหลือก็เรียนกวดวิชา เวลาที่จะได้อยู่กันพร้อมหน้าก็น้อยลงทุกที จนทำให้เกิดระยะห่างระหว่างความสัมพันธ์ของสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว ขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ภาพฝันของครอบครัวที่อบอุ่นก็คงยิ่งไกลห่าง อย่าปล่อยให้ครอบครัวของคุณต้องเป็นอย่างนั้นเชียวนะคะ รีบมากระชับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวกันดีกว่า
1. ให้ความสำคัญกับทุก ๆ การกระทำและคำพูด
เมื่อต่างคนต่างยอมรับว่าเวลาที่มีใช้ร่วมกันนั้นลดน้อยลง ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ได้พูดคุยกันจึงเป็นช่วงเวลาที่มีค่า ทุกคำพูดและทุกการกระทำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องใส่ใจ ใส่ความรัก ความเชื่อใจ ความเคารพซึ่งกันและกันเข้าไปด้วย ถ้าเวลามีไม่มาก ก็ต้องทำเรื่องเหล่านี้ให้มีค่ามากกว่าเดิมกันนะ
2. ตั้งใจฟังกันและกันให้มากขึ้น
การทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี จะทำให้ผู้พูดรู้สึกดีว่ามีคนสนใจในสิ่งที่เขากำลังพูดอยู่จริง ๆ และรู้สึกว่าอีกฝ่ายสามารถรับรู้ความรู้สึกของเขาได้ ในฐานะลูกก็ควรตั้งใจฟังสิ่งที่พ่อแม่บอก ส่วนคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องตั้งใจฟังเรื่องราวที่ลูก ๆ ชวนคุยเจื้อยแจ้วเจรจาด้วย การแสดงตัวให้เห็นว่าคุณฟังสิ่งที่เขาพูดอย่างตั้งใจ จะเป็นตัวอย่างให้เขาเห็นและเลียนแบบถึงการเป็นผู้ฟังที่ดีด้วยนะ
3. ไม่ทำท่าดูถูกดูแคลนความคิดเห็นของสมาชิกคนอื่น
เมื่อตั้งใจฟังสิ่งที่คนอื่นพูดแล้ว แม้จะมีความเห็นต่อเรื่องนั้นในเชิงไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ควรแสดงสีหน้าท่าทาง หรือเอ่ยวาจาแสดงความคิดเห็นออกมาในเชิงดูถูกดูแคลนเป็นอันขาด แม้ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ยิ่งถ้าเป็นการพูดกับลูก ๆ คุณอาจทำให้เขาไม่กล้าเล่าอะไรให้ฟังอีก ฉะนั้นก็ควรระวังตรงจุดนี้เอาไว้ด้วยนะคะ
4. เสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่กัน ด้วยการทำตามสัญญาที่ให้ไว้ให้ได้เสมอ
การที่สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวต่างมีความเชื่อมั่นให้แก่กัน ไม่ว่าลูก ๆ จะเชื่อมั่นในตัวคุณพ่อคุณแม่ พ่อแม่เชื่อมั่นในตัวกันและกัน รวมทั้งพ่อแม่เชื่อมั่นในตัวลูก ๆ จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี หากทุกคนในครอบครัวพูดอะไรมาแล้วพยายามทำให้ได้อย่างที่พูดจริง ๆ จะเสริมความเชื่อมั่นในตัวกันและกัน นำมาซึ่งความไว้วางใจ และเชื่อใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับครอบครัวที่อบอุ่นเช่นกัน
5. ภาษากายก็สำคัญ
ภาษากายก็มีความสำคัญไม่แพ้ภาษาที่สื่อออกมาด้วยการพูด ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า น้ำเสียง การใช้มือ หรือท่าทางอื่น ๆ ล้วนส่งผลต่อความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นควรให้ความสำคัญกับการใช้ภาษากายที่ส่งผลให้ความรู้สึกในเชิงบวกแก่คุณพ่อ คุณแม่ หรือว่าลูก ๆ ของคุณด้วยนะคะ
6. แบ่งเวลาส่วนหนึ่งให้เป็นเวลาสำหรับครอบครัวโดยเฉพาะ
ไม่มีอะไรจะดีต่อครอบครัวของคุณมากไปกว่าการที่คนในครอบครัวได้มาใช้เวลาอยู่ด้วยกัน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันอีกแล้ว ลองตั้งกฏง่าย ๆ ขึ้นหนึ่งข้อ ว่าให้เวลาอาหารเย็นคือเวลาพิเศษที่ทุกคนต้องอยู่พร้อมหน้า หรือสละเวลาเสาร์หรืออาทิตย์มาหนึ่งวันเป็นวันพักผ่อนของทุกคนในครอบครัว เมื่อต่างฝ่ายต่างจัดสรรเวลาให้มาว่างตรงกันแล้ว ก็จะมีช่วงเวลาให้ทุกคนได้พูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ทำมาแต่ละวัน ชวนกันไปทำอะไรสนุก ๆ การได้ใช้เวลาร่วมกันจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทุก ๆ คนในบ้านให้แนบแน่นขึ้นได้แน่นอน
เพราะครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของทุก ๆ คน การมีครอบครัวที่อบอุ่นเป็นพื้นฐานชีวิตที่ดีเกินร้อย ไม่ว่าครอบครัวจะใหญ่หรือเล็ก มีสมาชิกเยอะหรือน้อย ก็ไม่สำคัญเท่ากับความสนิทแนบแน่น และปริมาณความรักความผูกพันที่คนในครอบครัวมีให้กันหรอกนะคะ