x close

น้ำ รพีภัทร คุณพ่อมือใหม่ หัวใจเกินร้อย



น้ำ รพีภัทร คุณพ่อมือใหม่ หัวใจเกินร้อย
(ภาพยนตร์บันเทิง)
เรื่อง : เสาวรส
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram namrapeepat

          จากบทบาทของการเป็นสามี วันนี้นักแสดงหนุ่มฝีมือดี น้ำ รพีภัทร เอกพันธ์กุล กลายเป็นคุณพ่อมือใหม่ของลูกชายวัย 3 เดือนกว่า "น้องโอเชี่ยน" ด.ช.ณพรรณพ เอกพันธ์กุล วันนี้ DADDY TALK ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาพูดคุยถึงความรู้สึกและประสบการณ์ความเป็น "พ่อ" ครั้งแรกของ น้ำ รพีภัทร

 ความรู้สึกครั้งแรกกับการได้เป็นคุณพ่อ

          มันหลายอารมณ์ทั้งเป็นห่วงเมียและอยากเห็นหน้าลูก มันดีใจ ภูมิใจ และตื่นเต้น ผมอยากดูว่าเขาหน้าตาเหมือนใคร เพราะตอนอยู่ในท้องผมไม่เคยเห็น พอคลอดออกมาเราอยากดูว่าหน้าเหมือนผมหรือ มินตรา (มินตรา ชนิศา) แวบแรกมีเค้าเหมือนมินตรา และพอได้เห็นภรรยารู้สึกว่ารักแม่ขึ้นมาเยอะเลย เพราะเราเห็นเขาตั้งแต่ตอนท้องจนคลอด ทำให้เรารักแม่ขึ้นอีกเยอะ แต่ก็รักพ่อเราขึ้นด้วยนะ แต่จะรู้สึกกับแม่เป็นพิเศษ เพราะกลไกมันเยอะกว่าจะเป็นเด็ก 1 คน พอมาถึงช่วงเวลาการเลี้ยงยิ่งทำให้เรารักแม่ เพราะเขาช่วยตัวเองไมได้ อะไรก็ต้องพ่อกับแม่ แต่แม่จะหนักสุด



 ตั้งใจอยากเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง เพราะอยากเห็นพัฒนาการของลูก

          ผมตั้งใจจะเลี้ยงลูกเอง 2 คนกับภรรยา เพราะผมไม่ไว้ใจคนอื่น เลยลองอยากเลี้ยงเองว่าเป็นไง เพราะอยากซึมซับทุกความรู้สึกของการเป็นพ่อเป็นแม่ และอยากดูพัฒนาการของเขาด้วย บางวันผมไปทำงานตอนเช้า พอตอนเย็นกลับมารู้สึกทำไมหน้าเปลี่ยน ทำไมดูตัวโตขึ้นก็เลยไม่อยากพลาด แต่สุดท้ายก็ไม่ไหว ถ้าปล่อยให้มินตราเลี้ยงลูกคนเดียว เขาจะเหนื่อยเกินไปเพราะผมทำงานนอกบ้าน ก็โชคดีที่ได้แม่ผมบ้าง ได้แม่มินตรามาสลับกันช่วยเลี้ยง

          ซึ่งมันเป็นอะไรใหม่สำหรับผมมาก แต่ก่อนที่เราจะมีเขา เราก็ศึกษาหาความรู้มาก่อนในช่วงที่ภรรยาตั้งท้อง ก็เลยทำให้สิ่งที่แปลกใหม่มีการเตรียมตัวบ้างพอสมควร และด้วยประสบการณ์ที่เราเคยเห็นยายเมรับจ้างเลี้ยงเด็ก เราเลยรู้สึกว่ามันไม่ไกลตัวเกินไป ภาพมันยังพอจินตนาการออก แต่ตอนนั้นเราเป็นแค่คนที่คอยช่วยเล่นเก็บเด็กที่ยายเลี้ยง แต่นี่ต้องรับผิดชอบตลอดเวลา นี่ถือเป็นการรับผิดชอบเต็มรูปแบบครั้งแรกในชีวิต ผมทำทุกอย่างได้นะ เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ มีอย่างเดียวทำไม่ได้คือให้นม ก็สนุกดีเวลาที่เราได้ดูพัฒนาการของเขา จากตอนแรกที่เขาช่วยตัวเองไม่ได้ นมยังไม่ยอมดูดเลย จนเดี๋ยวนี้กินนมเก่ง เริ่มอ้อแอ้ มีการสื่อสาร มีการจำหน้าได้



 น้องโอเชี่ยนเลี้ยงยากไหม

          ช่วงเดือนแรกเหนื่อยมาก เพราะต้องให้เขากินนมทุก 3 ชั่วโมง เราก็ต้องกระตุ้นให้เขาตื่น ก็จะเหนื่อยก็ต้องสลับกัน พอเดือนที่ 2 ก็จะนอนเยอะขึ้น โอเค.เราได้นอนเยอะขึ้น พอเดือนที่ 3 เริ่มกินเยอะขึ้นนอนนานขึ้น แล้วเขาก็ดูแข็งแรงดี น้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์ และเริ่มมีอ้อนบ้าง ตอนเย็น ๆ ได้กินนมได้เล่นแล้วก็ไม่ค่อยอยากจะนอน พอนอนไปแป๊บเดียวก็ตื่นแล้ว เลี้ยงลูกเนี่ยผมว่ามันมีหลายอารมณ์นะ ทั้งเพลิดเพลินสนุกทั้งเหนื่อยหรือบางทีก็เครียด บางครั้งตอนแรก ๆ เขาตัวเหลืองผื่นขึ้นเราก็เครียด ช่วงแรก ๆ เหมือนเราเพิ่งรู้จักกัน เราต้องปรับจูนกันเป็นช่วงลำบากมาก แต่พอปรับจูนเข้าที่ก็โอเค.สบายขึ้น เหมือนเราพอรู้จังหวะแล้วลูกเริ่มโตขึ้น เราเองได้พักผ่อนมากขึ้น ก็ดีขึ้น

          พัฒนาการของน้องโอเชี่ยนค่อนข้างไปเร็วกว่าเด็กปกติ เพราะตอนที่เราสัมภาษณ์น้ำ โอเชี่ยนซึ่งคุณแม่อุ้มอยู่ข้าง ๆ ก็ทำเสียงเอิ๊กอ๊ากเหมือนอยากจะคุยด้วย

          ตอนเขาอยู่ในท้อง ผมไปไหว้พระจะอธิษฐานในใจขอให้ลูกผมเป็นเด็กเลี้ยงง่าย อารมณ์ดี แข็งแรง พอเรามาเลี้ยงก็เป็นไปตามนั้นนะ อีกอย่างตอนแรกลูกอาจจะป่วยบ้าง แต่ตอนนี้เขาแข็งแรง คือทุกอย่างที่เราอยากจะได้เขาก็เป็นอย่างนั้น เรารู้สึกแฮปปี้ แล้วพัฒนาการของเขาก็เป็นไปตามอายุของเขาที่ควรจะเป็นบางครั้งอาจจะมีเร็วไปกว่าปกติบ้าง อย่างเรื่องเล่าเรื่องพูด เขาพยายามที่จะคุย

          คือผมเริ่มพูดกับเขาตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่ในท้อง พอเขาออกมาผมก็ร้องเพลงเล่าอะไรให้เขาฟังไปเรื่อย ซึ่งผมว่าเขารู้นะ อย่างบางครั้งที่เขาร้องเวลาที่ไม่ได้ดั่งใจ พอผมพูดเขาหยุดฟังเสียงผมเหมือนตั้งใจฟังนะ และตามองมาที่ผมเหมือนเคยได้ยินคุ้นหู ๆ แล้วก็เงียบ และเวลาที่ลูกจำเสียงจำหน้าเราได้เรารู้สึกดีใจ หรือเวลาเราเล่นอะไรเดิม ๆ ที่เคยเล่นกับเขาแล้วเขาเล่นกับเราได้ เราก็แฮปปี้แล้ว"



 เห็นว่าเป็นคุณพ่อที่เห่อลูกมากจนไม่อยากไปทำงานหรือถ้าไปต่างจังหวัดก็ต้องพาลูกไปด้วย

          ผมว่าก็เห่อกันทุกคนแหละเวลามีลูกคนแรก ก่อนจะไปทำงานรู้สึกอยากอยู่กับลูกนาน ๆ ไม่อยากไป หรือผมต้องไปถ่ายละครต่างจังหวัด และต้องค้างคืน ผมไม่อยากให้ลูกผมห่างตา ปกติผมนอนด้วยกันทุกคืนจนติด พอเราต้องไปนอนค้างต่างจังหวัดผมรู้สึกแปลก ๆ เลยไปกันหมด 3 คนพ่อแม่ลูก ไปกองถ่ายเขาก็หลับดีนะ

 พอมีลูกความคิดและการกระทำก็จะเปลี่ยนไป

          ก็มีส่วนนะ อะไรที่มันเสี่ยงอันตรายมากไม่ค่อยทำนะ เพราะผมอยากจะอยู่กับเขานาน ๆ อยากรักษาประคองชีวิตให้ดูแลเขานาน ๆ และจะคิดถึงเขาตลอด เมื่อก่อนตอนไม่มีลูกก็คิดถึงเมีย แต่พอมีลูกก็คิดถึงและห่วงเมียด้วยว่าจะเลี้ยงไหวไหม ห่วงลูกด้วยจะแบบงอแงหรือเปล่า ก็คอยโทรศัพท์มาถามตลอด

 เริ่มวางแผนอนาคตให้กับครอบครัว

          ก็วางแผนให้กับลูกเพื่อการเรียน เรื่องเงินผมให้มินตราเปิดบัญชีให้ลูกฝากประจำทุกเดือน เดือนละ 25,000 บาท คือผมวางแผนไว้เงินที่ผมได้มาจะแบ่งเป็น 5 ส่วน ของผม ของมินตรา ของโอเชี่ยน อีก 2 ส่วนเก็บไว้ที่เรา เราจะไปใช้ในอนาคตช่วงฉุกเฉินของครอบครัว ส่วนค่าใช้จ่ายในครอบครัวก็เอาในส่วนของผมกับมินตรา ของโอเชี่ยนก็เก็บไว้ให้เขา ผมจะลองบริหารเงินกันเองในครอบครัว ซึ่งตอนนี้ผมทำงานคนเดียว ให้มินตราเป็นแม่บ้าน เพราะลูกยังเล็กด้วย เกิดเขาโตไปโรงเรียนแล้วมินตราเบื่อจะไปทำอะไรก็ได้ ตอนนี้ผมไหวอยู่ เมียคนลูกคน ผมยังสบาย ถ้าจะมีอีกคนก็ยังได้แต่เอาไว้ก่อน ผมอยากมีลูก 2 คน ไม่ให้โอเชี่ยนเหงาและอยากมีลูกสาวให้มินตรา เพราะลูกชายโตก็ตะลอนไปทั่ว ติดเพื่อนบ้างติดสาวบ้าง แต่รอให้โอเชี่ยนโตก่อนและฝึกให้เราเลี้ยงลูกไปด้วยจะได้รู้ทาง


 คาดหวังในตัวของลูกอย่างไร

          ที่ผมวางไว้ ถ้าลูกผมวิ่งได้ผมจะพาเขาไปสนามบอล ผมอยากให้เขาทำในสิ่งที่ผมเคยทำตอนเด็ก ผมรู้สึกมีความสุข ผมชอบอะไรก็อยากให้ลูกลองอย่างนั้น แต่ก็แล้แต่เขานะว่าจะชอบหรือไม่ชอบ แต่จะให้ลอง เช่น เตะฟุตบอล ไปอยู่ที่ธรรมชาติ เลี้ยงสัตว์ เพราะผมรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้มันช่วยทำให้กล่อมเกลาเด็ก อย่างผมเป็นคนอารมณ์ดี ใจธรรมชาติ เข้าใจการใช้ชีวิต เพราะผมได้เห็นภาพว่าเป็นยังไง และการที่เราได้เลี้ยงสัตว์ทำให้เรารู้จักการแบ่งเป็น จิตใจโอบอ้อมอารีต่อสัตว์และเพื่อนมนุษย์

          ตัวผมอยู่ต่างจังหวัดมาก่อนตอนเด็ก แต่ผมก็คิดไว้วันหนึ่งผมก็คงกลับไปอยู่ในที่ที่ผมเคยมา อย่างลูกผมถึงจะไม่ได้อยู่ต่างจังหวัด แต่ผมก็เลือกสิ่งแวดล้อมที่อยู่กับธรรมชาติให้เขา บ้านผมอยู่ติดสวนหย่อมของหมู่บ้าน เหมือนยกต่างจังหวัดมาไว้ที่บ้านผม แล้วบ้านผมเลี้ยงไก่ตอนเช้าจะมีเสียงไก่ขันเหมือนเสียงนาฬิกาปลุก ซึ่งพอได้ยินเสียงไก่ขันตอนเช้ารู้สึกเหมือนเราอยู่ต่างจังหวัด และผมก็จะพาเขาไปเที่ยวต่างจังหวัดไปนครนายกบ้านผม ไปถ่ายละครที่พัทยา ให้เขาได้เห็นได้ซึมซับบรรยากาศที่เราเคยมี

          ผมเองผ่านมาทั้งเรื่องดีและไม่ดี เราจะใช้สิ่งที่ดี ๆ เราอยากให้ลูกสัมผัส เราไม่อยากให้ลูกเจอสิ่งไม่ดีอย่างที่เราผ่านมา เราก็จะนำเสนอสิ่งดี ๆ ให้เขา เหมือนเป็นการสร้างภูมิให้กับเขาไปในตัว ผมว่าเด็กต่างจังหวัดชีวิตไม่ต้องเร่งรีบเหมือนเด็กในเมือง ไม่ต้องตื่นแต่ตี 5 อาบน้ำ แต่งตัว แล้วไปกินข้าวในรถเพื่อไปให้ทันเข้าโรงเรียน ซึ่งผมคงจะให้ลูกเรียนโรงเรียนใกล้บ้านจะได้ไม่ต้องเร่งรีบไปเรียน ผมชอบให้ชีวิตง่ายที่สุด เพราะตอนที่ผมดูแลตัวเองวิธีการใช้ชีวิตผมก็ใช้แบบง่าย ๆ แต่ก็มีประสิทธิภาพของมันในระดับหนึ่ง ไม่ถึงกับต้องเพอร์เฟกต์ที่สุด แต่อะไรที่ดีและเรียบง่ายก็มี

 คุณพ่อแบบไหนที่น้ำอยากเป็น

          อยากเป็นคุณพ่ออารมณ์ดี เพราะผมเชื่อว่าถ้าพ่ออารมณ์ดีลูกก็จะอารมณ์ดี คือ หัวมันดีทางก็ต้องดี แล้วสมาชิกในครอบครัวสุขภาพจิตก็จะดี

 เป็นชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ในแบบที่อยากให้เป็น

          ผมคิดว่ามีครบแล้วแม่พ่อลูก ชีวิตผมตอนนี้ก็สมบูรณ์ดี ผมมีความมั่นคงในระดับหนึ่งที่ผมทำให้แม่และพ่อของผมได้มีความมั่นคง มีอาชีพและสุขสบายขึ้นมากกว่าเดิม ส่วนครอบครัวผมเองรู้สึกว่าในอนาคตผมสามารถดูแลลูกและภรรยาได้มั่นคงด้วยตัวเราเอง ผมทำให้ทุกคนในครอบครัวผมมีความสุข รู้สึกโอเค.แล้ว รู้สึกภูมิใจกับตัวเองและพอใจกับสิ่งที่ตัวเองทำแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้หยุดนะ รู้สึกตัวเองยังมีแรงอยู่ เมื่อก่อนตอนเด็กคิดว่าจะเกษียณตัวเองไม่ทำงานตอนอายุ 45 แต่ตอนนี้คิดว่าอายุ 45 ยังมีแรงทำงานอยู่ แต่อาจจะรีไทร์ตัวเองจากการทำงานหนัก ๆ ไปอยู่ต่างจังหวัดทำสวนเลี้ยงไก่ แต่ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่านะ แต่อยากจะให้เป็นอย่างนั้น



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 39 วันที่ 28 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2555 Vol.1842


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
น้ำ รพีภัทร คุณพ่อมือใหม่ หัวใจเกินร้อย โพสต์เมื่อ 26 ธันวาคม 2555 เวลา 17:08:20 1,970 อ่าน
TOP