เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย nocommenttv
รายงานจากเว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ วันที่ 8 เมษายน ระบุว่า อินเดียจัดงานประเพณีโยนเด็กขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงต่อต้านจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน หลังจากประเพณีนี้ถูกแบนไปแล้วในปี 2011
รายงานระบุว่า ผู้คนในรัฐกรณาฏกะ ทางตอนใต้ของอินเดีย จัดพิธีโยนเด็กขึ้นอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน แม้ว่าจะถูกต่อต้านอย่างหนักตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเคยถูกแบนไปแล้วในปี 2011 โดยประเพณีดังกล่าวนิยมปฏิบัติกันในหมู่ชาวอินเดียทั้งที่เป็นฮินดูและมุสลิม โดยเฉพาะที่รัฐกรณาฏกะ และรัฐมหาราษฏระ ที่บรรดาแม่ ๆ จะนำลูกเล็กของตัวเองซึ่งอายุไม่เกิน 2 ปี มาเข้าร่วมงานที่มัสยิดของหมู่บ้าน ซึ่งนักบวชของวัดจะประจำอยู่ที่ส่วนระเบียงของมัสยิด ซึ่งมีความสูงจากพื้นราว 9 เมตรกว่า ๆ ก่อนจะจับเด็กน้อยที่แขนและขาด้วยมือทั้งสอง ยื่นออกมานอกระเบียง เขย่าตัวหนูน้อยไปมาพร้อมคำสวดให้พรสั้น ๆ แล้วจึงปล่อยโยนหนูน้อยลงสู่เบื้องล่าง โดยมีกลุ่มชายหนุ่มราว 14-15 คนรวมทั้งพ่อแม่เด็ก คอยกางผ้ารอรับเอาไว้ จากนั้นเด็กก็จะถูกอุ้มส่งคืนให้กับพ่อแม่ต่อไป
สำหรับเหตุผลที่ต้องมีประเพณีนี้ นั่นคือชาวมุสลิมและฮินดูในละแวกนี้ มีความเชื่อว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการให้พรแก่เด็ก ๆ เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง เติบโตเป็นเด็กที่เข้มแข็ง และมีอายุยืนนาน ซึ่งนับเป็นการแก้เคล็ดอันเนื่องมาจากประชากรเด็กของอินเดียมีอัตรการเสียชีวิตสูงนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดมาเป็นเวลานานนี้ ถูกต่อต้านจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนท้องถิ่นของอินเดียว่า เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนรุนแรง โดยกล่าวว่าประชาชนจำนวนมากยังคงขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพของเด็ก และการเข้าถึงบริการสาธารณสุข จึงยังทำให้ประเพณีเช่นนี้ยังสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน และแม้จะมีการเดินหน้าต่อต้าน จนรัฐบาลอินเดียเพิ่งสั่งแบนประเพณีโยนเด็กนี้ไปเมื่อปี 2011 แต่ล่าสุดประเพณีโยนเด็กก็ถูกจัดขึ้นอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่รัฐกรณาฏกะ ตามความเชื่อดั้งเดิม
ทั้งนี้ จากคลิปวีดิโอซึ่งเป็นคลิปงานประเพณีโยนเด็กของปี 2009 จะเห็นได้ว่าเด็กน้อยกรีดร้อง และร้องไห้อย่างเสียขวัญ แต่ก็ไม่ปรากฎว่ามีเด็กคนไหนได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
คลิป อินเดียจัดประเพณีโยนเด็ก