x close

โรคกลัวอ้วนทำพิษ! แม่วัย 26 หนักน้อยกว่าลูกสาว 7 ขวบ







เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก closer magazine

          เมื่อดูรูปครั้งแรกแล้วอาจจะคิดว่า นี่เป็นรูปของพี่สาวน้องสาว แต่ความจริงอันน่าตระหนกที่อดทำให้กลับไปจ้องมองรูปซ้ำชัด ๆ อีกครั้งไม่ได้ เมื่อได้รู้ว่าหญิงทั้งสองคนในรูปนี้เป็นแม่ลูกกัน.. !! ใช่แล้ว คนหนึ่งเป็นแม่ และอีกคนหนึ่งคือลูกสาว แถมคุณแม่หน้าอ่อนคนนี้ยังมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าลูกสาวของตัวเองเสียอีก

          คุณแม่ยังสาวรายนี้ชื่อ รีเบคก้า โจนส์ ที่เห็นตัวเล็กผอมแกร็นขนาดนี้เพราะเธอป่วยด้วยโรคกลัวอ้วน หรือ อะนอเร็กเซีย เป็นระยะเวลามากว่าครึ่งชีวิต ทำให้เธอในวัย 26 กับส่วนสูง 5 ฟุต 1 นิ้ว (ราว 1.54 เมตร) มีน้ำหนักตัวเพียง 31.75 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานแล้ว ยังหนักน้อยกว่า เมซี่ ลูกสาววัย 7 ขวบ ที่รูปร่างปกติและมีน้ำหนัก 36.75 กิโลกรัม อีกด้วย

          ตามรายงานจากเว็บไซต์เดลิเมล อาการผิดปกติด้านการกินของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธออายุ 11 ปี ตอนที่พ่อและแม่ของเธอตัดสินใจแยกทางกันอยู่ เริ่มแรกเธอนั้นเธอกินแบบตามใจปากสุด ๆ จนน้ำหนักพุ่งขึ้นไปถึง 95.25 กิโลกรัม จนเมื่ออายุ 13 เธอเริ่มทนไม่ได้ที่ถูกล้อเลียนจากที่โรงเรียนอยู่เสมอ ความอายทำให้เธอแทบหยุดกินทุกสิ่ง และน้ำหนักก็ลดลงจนใส่เสื้อผ้าไซส์ 10 ได้ เพื่อน ๆ ที่เคยล้อเลียนเธอเองยังกล่าวชมถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ ส่วนครอบครัวของเธอก็ไม่ได้ฉุกคิดถึงความเปลี่ยนแปลงจากน้ำหนักที่ลดลงฮวบฮาบลงอย่างมาก จนอีก 2 ปีต่อมา น้ำหนักของเธอลดลงเหลือ 50.8 กิโลกรัม และประจำเดือนของเธอก็ขาดหายไป


          "ฉันเริ่มรู้สึกอ่อนเพลียมาก จนบางทีลุกจากที่นอนไม่ไหว" รีเบคก้า พูดถึงตัวเองในเวลานั้น

          เธอพบกับพ่อของ เมซี่ เมื่ออายุ 19 ตอนที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ด้วยอาการของโรคอะนอเร็กเซีย ทำให้รีเบคก้าคิดว่าเธอคงไม่สามารถมีลูกได้แล้ว จนกระทั่งเธอรู้สึกว่ามีเท้าน้อย ๆ กำลังเตะอยู่ในท้องของเธอ เมื่อเธอไปพบแพทย์ จึงได้รู้ว่าขณะนั้นเธอตั้งท้องได้ 26 สัปดาห์ ทั้ง ๆ ที่มีร่างกายผอมบาง ใส่เสื้อผ้าไซส์ 6 และหน้าท้องก็แฟบแห้งแบบนั้น แพทย์เตือนให้เธอกินไก่เพื่อเพิ่มโปรตีน รวมทั้งกินวิตามินเสริมเพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ของเด็กในท้อง แต่ด้วยความไม่คุ้นชินกับการกินอาหารแบบปกติ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนไม่สบายทุกครั้งที่แฟนของเธอ พยายามหลอกล่อให้เธอรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เหล่านั้นเข้าไป สุดท้ายแล้ว เธอก็สามารถเข็นน้ำหนักระหว่างตั้งครรภ์ให้ขึ้นมาได้อีกราว 3 กิโลกรัมเท่านั้น จากการกินขนมปังและหัวบีตรูท อย่างไรก็ตามโชคดีที่เมื่อครบกำหนด หนูน้อยเมซี่สามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย แม้ออกจะตัวเล็กกว่าเด็กทั่วไป และมีน้ำหนักเพียง 2,466.5 กรัม 

          จากนั้นมาเธอกับพ่อของเมซี่ก็แยกทางกัน และเธอเองก็หันกลับมากินอาหารปริมาณเท่าแมวดมเช่นเดิม แถมยังเน้นกินแต่เครื่องดื่มไดเอ็ตเท่านั้น "ฉันสามารถใส่เสื้อผ้าของลูกได้ เราสามารถใส่เสื้อและกางเกงยีนส์ตัวเดียวกันได้" รีเบคก้ากล่าว "ฉันรู้สึกดีนิด ๆ ที่ใส่เสื้อผ้าของลูกได้ ฉันรู้ว่ามันผิด แต่ก็อดรู้สึกอย่างนั้นไม่ได้จริง ๆ"

          และถึงแม้จะเป็นแม่ที่ป่วยด้วยโรคกลัวอ้วน แต่เธอก็เหมือนกับแม่คนอื่นทั่ว ๆ ไป ที่อยากให้ลูกของตัวเองเติบโตขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ เธอรู้สึกดีที่เห็นเมซี่กินช็อกโกแลตหรือขนมเค้กอย่างเอร็ดอร่อย "ฉันบอกเมซี่ว่า ฉันมีปัญหาเรื่องการกินอาหารผิดปกติ และย้ำกับเธอเสมอว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย" เมซี่เองก็ดูจะเข้าใจและเป็นห่วงอาการของรีเบคก้าอยู่ไม่น้อย เธอยังพยายามชวนให้แม่กินเค้กด้วยกัน แม้ไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไหร่ก็ตาม

          นอกจากนี้ผลการตรวจเลือดของรีเบคก้าในปีที่ผ่านมา  ปรากฏว่าเธอมีอาการไฮโปคาลีเมีย ซึ่งเป็นภาวะระดับโพแทสเซียมในเลือดลดลงผิดปกติ อันจะทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นตะคริว และยังทำให้เธอเสี่ยงที่จะประสบภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากเธอยังไม่ปรับปรุงพฤติกรรมการกิน และเพิ่มน้ำหนักตัวของตัวเอง

          "ฉันกลัวมาก แค่คิดว่าจะไม่ได้อยู่ดูวันที่เมซี่เติบโต ..ฉันอยากจะกินให้ได้อย่างปกติ ไม่มีอะไรดีกว่าการได้ออกไปกินข้าวกลางวันกับเมซี่สักมื้อ ..แต่ฉันก็ไม่เคยทำมันได้"

          หวังว่าจากนี้ไปเธอจะพยายามปรับปรุงพฤติกรรมการกินอาหารให้กลับมาเป็นปกติได้ นอกจากเพื่อตัวเธอแล้ว ยังเพื่ออยู่ดูแลเมซี่ลูกสาวสุดที่รักของเธอด้วย ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะตกเป็นเหยื่อของโรคกลัวอ้วน หรืออะนอเร็กเซียอีกคนหนึ่ง ที่ปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรมลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไม่อยู่ในภาวะที่เหมาะสมต่อการมีชีวิตอยู่อีกต่อไป






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โรคกลัวอ้วนทำพิษ! แม่วัย 26 หนักน้อยกว่าลูกสาว 7 ขวบ อัปเดตล่าสุด 8 พฤศจิกายน 2554 เวลา 17:59:50
TOP