x close

หนูน้อยตาใส ปิ๊ง...ปิ๊ง...



หนูน้อยตาใส ปิ๊ง...ปิ๊ง...
(รักลูก)

         เบบี้หลังคลอด ท่อน้ำตายังขยายไม่เต็มที่ อาจทำให้ขี้ตาเยอะ มีน้ำตาคลอเบ้าอยู่ตลอด และมีตาแฉะตามมาได้ วันนี้มีวิธีการเช็ด และทำความสะอาดดวงตาคู่น้อย มาฝากคุณแม่มือใหม่ เพื่อลูกน้อยมีดวงตาใสปิ๊งค่ะ

เด็กแรกเกิดท่อน้ำตายังขยายไม่เต็มที่ จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอุดตัน ทำให้มีขี้ตาเยอะ และตาแฉะได้

รู้สาเหตุตาแฉะกันก่อนนะ

         การที่ลูกน้อยมีขี้ตาเยอะ หรือตาแฉะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ คือเกิดจากการติดเชื้อ ส่วนใหญ่เป็นเชื้อแบคทีเรีย ที่มาจากการดูแลสุขอนามัยไม่ดี ส่งผลให้เกิดเยื่อตาอักเสบ มีขี้ตาแฉะ บางรายมีตาอักเสบ และมีตาแดงร่วมด้วย

         แต่สำหรับเด็กแรกเกิด อาจมีสาเหตุเฉพาะออกไปค่ะ เพราะเด็กแรกเกิดช่วงหลังตลอดจะมีการหยอดตา หรือป้ายยาให้กับเด็กทุกคน เด็กบางคนอาจจะเกิดการระคายเคือง น้ำตาไหล มีขี้ตาเยอะได้แต่ไม่เกิน 1 อาทิตย์ อาการนี้จะค่อย ๆ หายไปเองค่ะ

ขี้ตาเยอะ+ตาแฉะ=ท่อน้ำตาไม่ขยาย

         เด็กแรกเกิดท่อน้ำตายังขยายไม่เต็มที่ จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอุดตัน ทำให้ขี้ตาเยอะ และมีอาการตาแฉะตามมาได้น้ำตาจะคลอเบ้าอยู่ตลอด และมักจะเป็นช่วง 1-2 อาทิตย์ แรกหลังคลอด

หากลูกน้อยมีอาการดังกล่าวจะต้องดูแลด้วยวิธีต่อไปนี้นะคะ

 5 วิธีดูแลดวงตาใสปิ๊ง

         1.ก่อนทำความสะอาดดวงตาของลูก คุณแม่ควรจะล้างมือด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ ให้สะอาด หรือเช็คมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อน ที่สำคัญที่สุดคุณแม่อย่าลืมตัดเล็บนะคะ เพราะเล็บยาว ๆ นั้นอาจจะเป็นอันตรายต่อดวงตาของลูกได้

         2.ใช้สำลีชุบน้ำอุ่น (ควรเป็นน้ำที่ต้มสุกด้วยค่ะ) บิดสำลีให้หมาด แล้วค่อย ๆ เช็ด โดยเช็ดจากหัวตาไปหางตา ถ้ายังไม่สะอาดดีให้เปลี่ยนสำลีใหม่แล้วเช็ดซ้ำอีกครั้งหนึ่งค่ะ

         3.ใช้สำลีชุบน้ำอุ่น บิดให้หมาด เช็ดบริเวณรอบดวงตาอีกครั้งหนึ่ง โดยเช็ดบริเวณเปลือกตาบนก่อน และใต้ดวงตาอย่างเบามือ

         4.ใช้ผ้าสะอาด ที่เนื้อผ้านิ่ม ไม่หยาบค่อย ๆ ซับบริเวณรอบดวงตาเล็ก ๆ ของลูกน้อยให้แห้งอีกครั้ง

         5.ควรเช็ดวันละ 2-3 ครั้ง หลังการอาบน้ำ หรือเช็ดเวลาที่ลูกตาแฉะ มีขี้ตาเยอะ

         ถ้าภายใน 1 อาทิตย์ อาการตาแฉะยังไม่หาย และมีขี้ตาเป็นสีเขียว หรือสีเหลือง และมีอาการตาแดงร่วมด้วย เยื่อบุรอบตามีอาการบวมแดง อาจเกิดจากการติดเชื้อให้รีบพาไปพบแพทย์ค่ะ

         อย่าลืมว่าดวงตาเป็นสื่อประสาทสัมผัสที่สำคัญ ที่ช่วยในเรื่องพัฒนาการของลูกน้อย เพียงแค่วิธีการดูแลง่าย ๆ ก็ทำให้ลูกน้อยมีดวงตาใสปิ๊งแล้วค่ะ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 29 ฉบับที่ 341 มิถุนายน 2554

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หนูน้อยตาใส ปิ๊ง...ปิ๊ง... อัปเดตล่าสุด 1 กรกฎาคม 2554 เวลา 13:53:08 9,633 อ่าน
TOP