เตรียมตัวตั้งครรภ์ ต้องทำอย่างไรดี เพราะการจะมีลูกได้สักคน มีขั้นตอนหลายอย่างมากกว่าที่คิด เพื่อช่วยให้คุณแม่ท้องได้ง่าย ๆ และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ วันนี้เรามีข้อควรปฏิบัติมาฝากกันแล้วค่ะ
![ตั้งครรภ์]( "ตั้งครรภ์")
ทุกวันนี้มีผู้หญิงหลายคนที่เตรียมตัวมีลูกทันทีหลังแต่งงาน หรือบางคนก็วางแผนไว้อย่างดีแล้วว่าอีกสัก 1-2 ปีจะมีลูกแน่นอน บางคนที่มีสุขภาพดีแข็งแรงทั้งพ่อและแม่แถมอายุไม่มากก็สบายใจได้ ว่าจะสามารถมีลูกได้ง่าย ๆ แต่บางคนไม่เป็นอย่างนั้น อาจต้องเจอกับปัญหามีลูกยากจนต้องตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ หรือบางคนก็กลัวว่าวันที่พร้อมตั้งท้องจะไม่เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ก็มี
ทั้งนี้สำหรับใครที่อยากจะมีลูก หรือกำลังเตรียมตัวมีลูก เพื่อช่วยให้สมหวังได้ง่ายขึ้น อันดับแรกควรหันมาเตรียมความพร้อมของตัวเองเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ พอถึงเวลาตั้งท้องขึ้นมาจริง ๆ จะได้มีสุขภาพที่ดีไม่น่าห่วง แถมยังช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกได้มากขึ้นด้วย โดยวันนี้กระปุกดอทคอมได้นำเคล็ดลับ เตรียมตัวตั้งครรภ์ และการดูแลสุขภาพให้สาว ๆ ที่อยากจะมีเจ้าตัวน้อยมาฝากกันแล้ว ดูสิว่าควรทำอะไรบ้าง แต่ละข้อนี่ง่ายสุด ๆ
อยู่ที่ตัวเราเองแล้วล่ะค่ะว่าจะมีวินัยมากน้อยแค่ไหน
1. เลิกบุหรี่ช่วยเพิ่มโอกาสของการตั้งครรภ์
ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าบุหรี่ 1 มวนมีโทษต่อคนสูบและผู้คนรอบข้างมากมายแค่ไหน โดยเฉพาะผู้หญิงที่วางแผนต้องการจะมีลูกควรตระหนักถึงเรื่องนี้ให้มาก เพราะมีการทำวิจัยออกมาแล้วว่าผู้หญิงที่สูบบุหรี่มีโอกาสตั้งท้องได้ยากมากกว่าคนที่ไม่สูบเลย ด้วยการสำรวจกลุ่มผู้หญิงที่ตั้งใจจะมีลูกภายใน 2-3 เดือน ผลปรากฏว่า ผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่เลย ตั้งครรภ์ ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้หญิงที่สูบบุหรี่ 1-10 มวน ตั้งครรภ์เพียง 50 เปอร์เซ็นต์ และสุดท้ายกลุ่มที่สูบบุหรี่มากกว่า 10 มวน ตั้งครรภ์แค่ 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นอกจากนี้การสูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์ ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูก ทั้งน้ำหนักที่น้อยกว่าเกณฑ์ และอาจจะเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดด้วย รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าใครเตรียมตัวจะมีลูกก็เลิกบุหรี่เสียแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า
![ตั้งครรภ์]( "ตั้งครรภ์")
2. กินอาหารที่มีประโยชน์เน้นแคลเซียมและธาตุเหล็ก
การกินอาหารที่มีประโยชน์ กินให้ครบทั้ง 5 หมู่ คือข้อปฏิบัติที่เราทุกคนต้องทำอยู่แล้ว ถึงจะเตรียมตัวมีลูกหรือไม่ก็ตาม ทั้งผัก ผลไม้ แป้ง เนื้อสัตว์ รวมไปถึงวิตามินต่าง ๆ ส่วนสาว ๆ ที่ต้องการมีลูก ควรเน้นหนักไปที่แคลเซียมมากหน่อย เพราะระหว่างที่ตั้งครรภ์และให้นมลูกจะเกิดภาวะกระดูกพรุนได้ง่าย ส่วนธาตุเหล็กก็อย่าให้ขาด ด้วยเป็นธาตุสำคัญซึ่งส่งผลต่อการเติบโตและพัฒนาการทางสมองของลูกเป็นอย่างมาก หาได้จาก เนื้อสัตว์ เครื่องใน อาหารทะเล รวมถึงพืชผักใบเขียวชนิดต่าง ๆ เตรียมให้พร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ พอถึงช่วงตั้งครรภ์จริงจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารมากเกินไปนั่นเอง
3. ลดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน
เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนอย่าง ชา กาแฟ โกโก้ แม้จะไม่มีผลต่อการตั้งครรภ์โดยตรง แต่การดื่มเครื่องดื่มพวกนี้มากเกินไปก็ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพแน่ ยิ่งตั้งใจจะมีลุกด้วยแล้วก็ยิ่งต้องงด เพราะส่วนใหญ่เครื่องดื่มเหล่านี้ก็ล้วนมาพร้อมน้ำตาลทั้งสิ้น ทางที่ดีควรดื่มไม่เกินวันละ 1 แก้วเล็ก หันมาดื่มน้ำเปล่าให้มากจะดีกว่า
![ตั้งครรภ์]( "ตั้งครรภ์")
4. ออกกำลังกายแบบพอดี ๆ ไม่หนักหน่วงจนเกินไป
การออกกำลังกายถือว่าเป็นการคลายเครียดอีกทางหนึ่งของมนุษย์ เพราะเมื่อออกกำลังกายไปได้ระยะหนึ่ง สมองของเราจะหลั่งสารแห่งความสุขอย่างเอ็นดอร์ฟินออกมา ผู้หญิงที่ต้องการมีลูกจึงต้องออกกำลังกายเพื่อลดความเครียด และจะได้สร้างโอกาสของการตั้งครรภ์ได้มากขึ้น ทั้งนี้ ใช่ว่าการออกกำลังกายอย่างหนักจนถึงขั้นที่เกิดความเครียดกลับไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์ได้ง่าย ทางที่ดี ควรออกกำลังกายเเค่พอเหมาะ ไม่หักโหม อย่าง เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ เต้นแอโรบิก เท่านี้ก็เพียงพอต่อการดูแลตัวเองให้ดีแล้ว
5. กินอาหารที่มีกรดโฟลิกตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ช่วยให้ลูกแข็งแรง
กรดโฟลิกถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อพัฒนาการของลูกตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์แรกที่ตั้งครรภ์ ถ้าเราตั้งใจจะมีลูกอยู่แล้วก็ควรกินอาหารที่มีโฟลิกกันไว้ตั้งแต่แรกเลยดีกว่า เนื่องจากคุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์หลายคน ไม่ค่อยจะรู้ตัวว่ากำลังจะมีลูก มารู้ตัวอีกทีก็ผ่านหลายสัปดาห์ บางคนก็ลากยาวไปเป็นเดือนก็มี ทั้ง ๆ ที่ลูกน้อยในครรภ์ต้องการกรดโฟลิก เพื่อไปพัฒนาสมองและไขสันหลังตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์แรกแล้ว ดังนั้นสาว ๆ ที่ตั้งใจไว้ว่าต้องมีน้องแน่ ๆ ควรกินกรดโฟลิกเสริมให้ได้อย่างน้อย 1 เดือนก่อนการตั้งครรภ์ และกินไปจนถึงสัปดาห์ที่ 12 เลยด้วย
![ตั้งครรภ์]( "ตั้งครรภ์")
6. หมั่นตรวจสุขภาพทุก ๆ 3 เดือน
ถึงแม้ว่าเราไม่ได้ต้องการมีลูกภายในปีนี้ แต่การคอยตรวจสุขภาพบ่อย ๆ ว่าแข็งแรงดีไหม มีโรคแทรกซ้อนอะไรหรือเปล่าคงจะดีกว่าไม่รู้อะไรเลย อย่างเช่น ตรวจความดัน ตรวจน้ำตาลในเลือด ตรวจความแข็งแรงของกระดูก หรือแม้แต่การตรวจดูประจำเดือนและมดลูกว่าผิดปกติหรือไม่ก็ควรต้องทำ อีกทั้งหากพาคุณผู้ชายของเรามาตรวจด้วยกันได้ก็จะดีมาก แข็งแรงทั้งพ่อและแม่แบบนี้ เจ้าตัวน้อยก็พร้อมมาเกิดกับเราแน่นอน
7. ทำจิตใจให้สบาย ห้ามเคร่งเครียดมากเกินไป
ความเครียดนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตโดยตรงแล้ว โรคที่รุมเร้าคนเราก็ล้วนแต่เกิดมาจากความเครียดนี่แหละ โดยเฉพาะผู้หญิงคนไหนหากถูกกดดันให้มีลูกเร็ว ๆ ก็จะยิ่งเครียด จนถึงขั้นประจำเดือนมาไม่ปกติเลยก็มี ดังนั้น ถ้าใครวางแผนที่จะมีลูก ควรทำจิตใจให้สงบ ปล่อยวางอะไรได้ก็ควรปล่อย แล้วเมื่อใดที่พร้อมจะตั้งครรภ์ ลูกน้อยสุดที่รักก็จะมาเเบบสมใจนึกเลยทีเดียว
![ตั้งครรภ์]( "ตั้งครรภ์")
ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีเตรียมตัวก่อนการตั้งครรภ์ที่สาว ๆ ควรรู้เอาไว้ เพื่อที่ถึงเวลาอยากมีลูกจริง ๆ จะได้ไม่มีปัญหามากนัก อีกทั้งยังลดปัญหาการคลอดก่อนกำหนดได้อีกด้วย แล้วจะให้ได้ผลดีมากกว่านี้ ชวนคุณผู้ชายข้างกายหันมาดูแลตัวเองด้วยก็จะดีมาก
ข้อมูลจาก : naturalfertilityandwellness.com, glamourmagazine.co.uk, verywellfamily.com
ทั้งนี้สำหรับใครที่อยากจะมีลูก หรือกำลังเตรียมตัวมีลูก เพื่อช่วยให้สมหวังได้ง่ายขึ้น อันดับแรกควรหันมาเตรียมความพร้อมของตัวเองเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ พอถึงเวลาตั้งท้องขึ้นมาจริง ๆ จะได้มีสุขภาพที่ดีไม่น่าห่วง แถมยังช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกได้มากขึ้นด้วย โดยวันนี้กระปุกดอทคอมได้นำเคล็ดลับ เตรียมตัวตั้งครรภ์ และการดูแลสุขภาพให้สาว ๆ ที่อยากจะมีเจ้าตัวน้อยมาฝากกันแล้ว ดูสิว่าควรทำอะไรบ้าง แต่ละข้อนี่ง่ายสุด ๆ
อยู่ที่ตัวเราเองแล้วล่ะค่ะว่าจะมีวินัยมากน้อยแค่ไหน
1. เลิกบุหรี่ช่วยเพิ่มโอกาสของการตั้งครรภ์
ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าบุหรี่ 1 มวนมีโทษต่อคนสูบและผู้คนรอบข้างมากมายแค่ไหน โดยเฉพาะผู้หญิงที่วางแผนต้องการจะมีลูกควรตระหนักถึงเรื่องนี้ให้มาก เพราะมีการทำวิจัยออกมาแล้วว่าผู้หญิงที่สูบบุหรี่มีโอกาสตั้งท้องได้ยากมากกว่าคนที่ไม่สูบเลย ด้วยการสำรวจกลุ่มผู้หญิงที่ตั้งใจจะมีลูกภายใน 2-3 เดือน ผลปรากฏว่า ผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่เลย ตั้งครรภ์ ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้หญิงที่สูบบุหรี่ 1-10 มวน ตั้งครรภ์เพียง 50 เปอร์เซ็นต์ และสุดท้ายกลุ่มที่สูบบุหรี่มากกว่า 10 มวน ตั้งครรภ์แค่ 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นอกจากนี้การสูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์ ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูก ทั้งน้ำหนักที่น้อยกว่าเกณฑ์ และอาจจะเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดด้วย รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าใครเตรียมตัวจะมีลูกก็เลิกบุหรี่เสียแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า
การกินอาหารที่มีประโยชน์ กินให้ครบทั้ง 5 หมู่ คือข้อปฏิบัติที่เราทุกคนต้องทำอยู่แล้ว ถึงจะเตรียมตัวมีลูกหรือไม่ก็ตาม ทั้งผัก ผลไม้ แป้ง เนื้อสัตว์ รวมไปถึงวิตามินต่าง ๆ ส่วนสาว ๆ ที่ต้องการมีลูก ควรเน้นหนักไปที่แคลเซียมมากหน่อย เพราะระหว่างที่ตั้งครรภ์และให้นมลูกจะเกิดภาวะกระดูกพรุนได้ง่าย ส่วนธาตุเหล็กก็อย่าให้ขาด ด้วยเป็นธาตุสำคัญซึ่งส่งผลต่อการเติบโตและพัฒนาการทางสมองของลูกเป็นอย่างมาก หาได้จาก เนื้อสัตว์ เครื่องใน อาหารทะเล รวมถึงพืชผักใบเขียวชนิดต่าง ๆ เตรียมให้พร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ พอถึงช่วงตั้งครรภ์จริงจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารมากเกินไปนั่นเอง
เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนอย่าง ชา กาแฟ โกโก้ แม้จะไม่มีผลต่อการตั้งครรภ์โดยตรง แต่การดื่มเครื่องดื่มพวกนี้มากเกินไปก็ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพแน่ ยิ่งตั้งใจจะมีลุกด้วยแล้วก็ยิ่งต้องงด เพราะส่วนใหญ่เครื่องดื่มเหล่านี้ก็ล้วนมาพร้อมน้ำตาลทั้งสิ้น ทางที่ดีควรดื่มไม่เกินวันละ 1 แก้วเล็ก หันมาดื่มน้ำเปล่าให้มากจะดีกว่า
การออกกำลังกายถือว่าเป็นการคลายเครียดอีกทางหนึ่งของมนุษย์ เพราะเมื่อออกกำลังกายไปได้ระยะหนึ่ง สมองของเราจะหลั่งสารแห่งความสุขอย่างเอ็นดอร์ฟินออกมา ผู้หญิงที่ต้องการมีลูกจึงต้องออกกำลังกายเพื่อลดความเครียด และจะได้สร้างโอกาสของการตั้งครรภ์ได้มากขึ้น ทั้งนี้ ใช่ว่าการออกกำลังกายอย่างหนักจนถึงขั้นที่เกิดความเครียดกลับไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์ได้ง่าย ทางที่ดี ควรออกกำลังกายเเค่พอเหมาะ ไม่หักโหม อย่าง เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ เต้นแอโรบิก เท่านี้ก็เพียงพอต่อการดูแลตัวเองให้ดีแล้ว
5. กินอาหารที่มีกรดโฟลิกตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ช่วยให้ลูกแข็งแรง
กรดโฟลิกถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อพัฒนาการของลูกตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์แรกที่ตั้งครรภ์ ถ้าเราตั้งใจจะมีลูกอยู่แล้วก็ควรกินอาหารที่มีโฟลิกกันไว้ตั้งแต่แรกเลยดีกว่า เนื่องจากคุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์หลายคน ไม่ค่อยจะรู้ตัวว่ากำลังจะมีลูก มารู้ตัวอีกทีก็ผ่านหลายสัปดาห์ บางคนก็ลากยาวไปเป็นเดือนก็มี ทั้ง ๆ ที่ลูกน้อยในครรภ์ต้องการกรดโฟลิก เพื่อไปพัฒนาสมองและไขสันหลังตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์แรกแล้ว ดังนั้นสาว ๆ ที่ตั้งใจไว้ว่าต้องมีน้องแน่ ๆ ควรกินกรดโฟลิกเสริมให้ได้อย่างน้อย 1 เดือนก่อนการตั้งครรภ์ และกินไปจนถึงสัปดาห์ที่ 12 เลยด้วย
ถึงแม้ว่าเราไม่ได้ต้องการมีลูกภายในปีนี้ แต่การคอยตรวจสุขภาพบ่อย ๆ ว่าแข็งแรงดีไหม มีโรคแทรกซ้อนอะไรหรือเปล่าคงจะดีกว่าไม่รู้อะไรเลย อย่างเช่น ตรวจความดัน ตรวจน้ำตาลในเลือด ตรวจความแข็งแรงของกระดูก หรือแม้แต่การตรวจดูประจำเดือนและมดลูกว่าผิดปกติหรือไม่ก็ควรต้องทำ อีกทั้งหากพาคุณผู้ชายของเรามาตรวจด้วยกันได้ก็จะดีมาก แข็งแรงทั้งพ่อและแม่แบบนี้ เจ้าตัวน้อยก็พร้อมมาเกิดกับเราแน่นอน
7. ทำจิตใจให้สบาย ห้ามเคร่งเครียดมากเกินไป
ความเครียดนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตโดยตรงแล้ว โรคที่รุมเร้าคนเราก็ล้วนแต่เกิดมาจากความเครียดนี่แหละ โดยเฉพาะผู้หญิงคนไหนหากถูกกดดันให้มีลูกเร็ว ๆ ก็จะยิ่งเครียด จนถึงขั้นประจำเดือนมาไม่ปกติเลยก็มี ดังนั้น ถ้าใครวางแผนที่จะมีลูก ควรทำจิตใจให้สงบ ปล่อยวางอะไรได้ก็ควรปล่อย แล้วเมื่อใดที่พร้อมจะตั้งครรภ์ ลูกน้อยสุดที่รักก็จะมาเเบบสมใจนึกเลยทีเดียว
ข้อมูลจาก : naturalfertilityandwellness.com, glamourmagazine.co.uk, verywellfamily.com
