แม่ตั้งครรภ์อยากทำดีท็อกซ์แก้ท้องผูก (modernmom)
โดย : นพ.เอกชัย โควาวิสารัช
Q : ตั้งครรภ์ได้ 11 สัปดาห์ มีอาการท้องผูกมากค่ะ บางครั้ง 2-3 วันถ่ายครั้งหนึ่ง แต่พอถ่ายแล้วก็ออกมานิดหน่อยเป็นเม็ด ๆ ประมาณ 7-8 เม็ด เคยใช้ยาสวนก็ออกมานิดหน่อย กังวลว่าหากอุจจาระค้างอยู่นานจะเป็นอันตรายกับลูกในครรภ์ไหมคะ แล้วหากดิฉันต้องการดีท็อกซ์สามารถทำได้หรือไม่คะ
ลลิตา/ อยุธยา
A : โดยปกติแล้วคุณแม่ตั้งครรภ์มีโอกาสที่จะมีอาการท้องผูกได้มากกว่าขณะไม่ได้ท้อง เนื่องจากผลของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานช้าลงโดยเฉพาะลำไส้ใหญ่ น้ำก็จะถูกดูดซึมกลับได้มากขึ้น ทำให้บางครั้งอุจจาระจะแห้งและแข็งกว่าปกติ ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการ
1. ต้องรับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะผักสด ถ้าเป็นไปได้ ต้องระมัดระวังเรื่องการล้างผักให้สะอาด หรือถ้าเป็นไปได้อาจใช้ผักปลอดสาร 2. ดื่มน้ำให้มาก อย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร โดยทยอยดื่มไปเรื่อย ๆ ทั้งวัน แต่อย่าดื่มมากก่อนนอน เพราะว่าจะทำให้ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะตอนดึก 3. ออกกำลังกายพอประมาณ เช่น เดิน ว่ายน้ำ หรือออกกายบริหาร แล้วแต่ความสะดวก และความพอใจของคุณแม่ส่วนเรื่องยาระบายผมอยากจะให้ใช้เมื่อใช้วิธีการทั้ง 3 แล้วก็ยังท้องผูกอีก ถ้าจะใช้ยาอาจใช้เป็นยากลุ่ม Senokot รับประทาน 2 เม็ดก่อนนอน หรือ Milk of Magnesia (MOM) 2 ช้อนโต๊ะ ก่อนนอน ถ้าท้องผูกอีก
แล้วการที่อุจจาระค้างนาน ไม่มีอันตรายแก่ลูก แต่กับคุณแม่อาจมีของเสียดูดซึมกลับสู่ร่างกายคุณแม่ได้มากขึ้น
ส่วนการทำดีท็อกซ์ เนื่องจากหลักการของการทำดีท็อกซ์ ผมไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะว่าการที่สวนด้วยกาแฟหรืออะไรก็แล้วแต่เข้าไปในลำไส้ใหญ่ทางทวารหนัก ก็เหมือนกับการนำสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนได้ แม้ว่าจะเกิดขึ้นน้อยก็ตาม และก็ยังเป็นการล้างแบคทีเรียที่เป็นเจ้าถิ่น (Normal flora) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ดีเป็นส่วนใหญ่ที่อยู่แถวลำไส้ใหญ่ออกไปหรือบางคนเรียกว่าจุลินทรีย์สุขภาพ แบคทีเรียเหล่านี้มีข้อดีหลายประการ ดังนั้นผมจึงไม่เห็นด้วยกับการทำดีท็อกซ์ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
