เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เด็ก ๆ เปิดเทอมทีไรก็มีเรื่องให้คุณพ่อคุณแม่ปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งเรื่องที่เจ้าหนูน้อยอิดออดไม่ยอมไปโรงเรียน รบเร้าอยากได้ของใหม่ และร้องไห้งอแงทุกเช้า เจอเข้าบ่อย ๆ แบบนี้ทุกวันคุณพ่อคุณแม่คงปวดหัวกันน่าดูนะคะ วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำเสนอเคล็ดลับพิชิต 3 อาการไม่อยากไปโรงเรียนของเด็ก ๆ มาฝากกัน จะได้เอาไว้ปราบเจ้าหนูน้อยให้ยอมไปโรงเรียนแต่โดยดี
1. อยากได้ของใหม่เมื่อถึงฤดูกาลเปิดเทอม เด็ก ๆ มักจะมีความกดดันอยู่ลึก ๆ ทั้งเรื่องเพื่อนใหม่ ของใช้ใหม่ ๆ ที่ต่างคนต่างก็จะนำมาประกวดประชันกัน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะเจอลูกอ้อนของเด็ก ๆ ให้ซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า กล่องดินสอใหม่ให้บ้าง หรือบางรายอาจจะถึงขั้นรบเร้าให้ซื้อของเล่นแพง ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนั้นให้ ไม่เช่นนั้นก็จะงอแงไม่ยอมไปโรงเรียนซะดื้อ ๆ แต่ถ้าพ่อแม่ตามใจ ซื้อให้ตามคำขอของเขา เปิดเทอมใหม่ทุกครั้งก็คงจะต้องซื้อของใช้ใหม่ให้เขาทุกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ ฉะนั้นทางแก้ปัญหาที่ดีก็คือ การพูดคุยกับลูกเลยว่า จริง ๆ แล้วเขากำลังกังวลหรือไม่มั่นใจเรื่องอะไรอยู่ ต้องการอะไร หรือมีอะไรที่พ่อกับแม่จะช่วยเขาได้บ้าง แต่ถ้าเขายังดึงดันอยากจะได้ของใช้ใหม่ให้ได้ ก็ลองยื่นข้อเสนอให้เขาแบ่งเงินค่าขนมของเขาซื้อเองดูบ้าง เขาจะได้รู้จักใช้เงินให้เป็น อะไรที่ยังไม่จำเป็นต้องซื้อก็อย่าเพิ่งซื้อ แต่ถ้าพ่อแม่ออกเงินซื้อให้ อะไรที่ยังไม่จำเป็นต้องซื้อจะกลายเป็นสิ่งที่ต้องซื้อขึ้นมาทันทีใช่ไหมล่ะคะ
2. ผัดวันประกันพรุ่งนิสัยผัดวันประกันพรุ่งไม่ได้เป็นกันเฉพาะกับผู้ใหญ่ แต่เจ้าหนูตัวน้อย ๆ ของเราก็มีชื่อเสียงในเรื่องความขี้เกียจและไม่กระตือรือร้นกับสิ่งที่ต้องทำนี้เช่นกัน โดยเฉพาะกับเรื่องการบ้าน ที่จะดองเอาไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่มีคาบเรียนอีกครั้งถึงจะลงมือทำ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรต้องใส่ดูแลเรื่องนี้กันเป็นพิเศษด้วย โดยอาจจะต้องถามเขาทุกเย็นว่ามีการบ้านที่ต้องทำไหม และแบ่งตารางเวลาสำหรับการทำการบ้านของเขาทุกวัน ซึ่งจะเป็นช่วงหลังเลิกเรียน หรือหลังอาหารเย็นก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรต้องสอบถามกับคุณครูประจำชั้นก่อน เพื่อกันเด็ก ๆ ซุกซ่อนการบ้านเอาไว้ไม่ยอมบอกเรานะคะ
3. ขี้แยเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนต้องเคยเจออาการงอแงของเด็ก ๆ มาบ้างไม่มากก็น้อย ยิ่งช่วงเปิดเทอมใหม่ ๆ ยิ่งคงจะเจอกันถี่อย่างไม่ต้องสงสัย แต่แทนที่จะปลอบโยนให้ลูกไม่ร้องไห้กลับหนักเข้าไปใหญ่ ต่อไปคุณพ่อคุณแม่สามารถแก้อาการนี้ของเด็ก ๆ ได้ไม่ยาก เพียงแค่เปลี่ยนหัวข้อพุดคุยเป็นเรื่องที่น่าสนใจ จูงใจให้เขานึกถึงเรื่องสนุก ๆ ที่โรงเรียน อาจจะเป็นชั่วโมงเรียนศิลปะ หรือการได้ไปเจอได้ไปเล่นกับเพื่อน ๆ เป็นต้น เท่านี้เด็ก ๆ ก็จะถูกโน้มน้าวให้คิดเรื่องสนุก ๆ ในโรงเรียนจนเลิกงอแงได้ในที่สุดแล้วล่ะค่ะ
หากลูก ๆ ของคุณมีอาการทั้ง 3 อย่างที่ว่ามานี้ ก็ลองนำวิธีที่เราเสนอไปใช้กับเด็ก ๆ ดูนะคะ แต่เหนือสิ่งอื่นใด คุณพ่อคุณแม่ควรเลี้ยงดูเขาด้วยความเข้าใจ ให้ความรักความอบอุ่นอย่างเต็มที่ และใส่ใจดูแลเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพียงเท่านี้เจ้าหนูน้อยของเราก็จะเป็นเด็กดี ไม่เกเรให้ต้องหนักใจแล้วล่ะค่ะ
