เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
คุณแม่หลาย ๆ คน มักจะเคยได้ยินมาว่า การที่เด็กร้องไห้นั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะบ่งบอกถึงสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงของเด็ก และการร้องไห้ยังเป็นหนึ่งในพัฒนาการที่สำคัญพอ ๆ กับเรื่องกินเรื่องนอนอีกด้วย
แต่คุณแม่รู้มั้ยคะว่า ตอนนี้ต่างประเทศเค้าได้มีการวิจัยเกี่ยวกับการร้องไห้ของเด็กออกมาแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าสนใจที่พ่อแม่ควรนำมาพิจารณาอยู่ไม่น้อย เค้าบอกอย่างนี้ค่ะว่า แม้การร้องไห้จะดีต่อพัฒนาการเด็กจริง แต่ถ้าปล่อยให้เด็กร้องไห้มาก ๆ ก็จะทำลายพัฒนาการทางสมองของเด็กได้เหมือนกัน
โดยการวิจัยที่ว่านี้ เป็นผลงานของ ดร. เพเนลอป ลีช ผู้เชี่ยวชาญเรื่องพัฒนาการของเด็กแรกเกิด - 5 ปี ได้กล่าวว่า นี่ไม่ใช่ข้อคิดเห็น แต่นี่เป็นความจริงเลยล่ะ การปล่อยให้เด็กร้องไห้นานเกินไปนั้นจะส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก โดยปกติแล้วเด็กจะร้องไห้ไม่เกิน 15 นาที ดังนั้น พ่อแม่จึงไม่ควรปล่อยให้ลูกน้อยร้องไห้เกิน 20 นาที เพราะการร้องไห้เป็นเวลานานนั้น จะทำให้ร่างกายผลิตคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนเครียดออกมาสูงขึ้น จนถึงขั้นผลิตออกมามากกว่าปกติ ดังนั้นเมื่อคอร์ติซอลเพิ่มสูงขึ้นเป็นเวลานาน ๆ ก็จะส่งผลให้ความสามารถในการเรียนรู้และความจำของเด็กลดลง รวมไปถึงไปขัดขวางกระบวนการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ ๆ อีกด้วย
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งเลยนะคะ ที่พ่อแม่จะต้องพยายามทำให้หยุดร้องไห้ให้ได้ หากพบว่าลูกน้อยร้องไห้เป็นเวลานานเกินไป ซึ่งการปลอบลูกน้อยให้หยุดนั้นก็ทำได้โดยการสัมผัสให้พวกเขารับรู้ถึงความรักความอบอุ่น ซึ่งเด็กจะรู้สึกผ่อนคลาย และในที่สุด สัมผัสรักจากพ่อแม่ก็จะไปปรับแต่งฮอร์โมนความเครียดที่ลูกน้อยมีอยู่ให้ลดลงได้ ส่งผลต่อสภาวะทางอารมณ์ การเรียนรู้ และการจดจำที่ดีในอนาคต
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
