x close

คนท้องเดินทางได้จนถึงกี่เดือน แนะวิธีเดินทางระหว่างตั้งครรภ์ที่คุณแม่ควรรู้

          คนท้องเดินทางได้จนถึงกี่เดือน คำถามนี้คงผุดขึ้นอยู่ในใจคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ชอบการท่องเที่ยวและการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ แต่รู้หรือไม่ว่าการเดินทางระหว่างตั้งครรภ์นั้นก็มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทการเดินทาง รวมไปถึงอายุครรภ์ด้วย จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ

คนท้อง

           เข้าสู่ช่วงเทศกาลหรือหยุดยาวทีไร หลาย ๆ ครอบครัวก็คงจะมีแพลนออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ใช่ไหมล่ะคะ แต่ถ้าช่วงนั้นคุณแม่กำลังตั้งครรภ์เจ้าตัวน้อยอยู่ล่ะก็ ก็คงจะแอบกังวลพร้อมกับเกิดคำถามว่าแล้วคนท้องจะสามารถเดินทางไกลได้ไหม และจะเดินทางได้จนถึงอายุครรภ์กี่เดือน ซึ่งความจริงแล้วคุณแม่ตั้งครรภ์สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ปกติค่ะ ไม่ว่าจะเดินทางไปทำงาน หรือไปเที่ยวในระยะใกล้ หรือระยะไกลอย่างต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ เพียงแต่ต้องระมัดระวังและดูแลสุขภาพมากกว่าปกติ พร้อมกับควรคำนึงถึงอายุครรภ์ที่เหมาะสมกับการเดินทางประเภทต่าง ๆ

          ซึ่งหากคุณแม่ตั้งครรภ์ท่านใดที่ยังเกิดความสงสัยว่าแล้วการเดินทางระหว่างตั้งครรภ์ จะมีข้อห้ามและข้อปฏิบัติอย่างไรบ้างนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีคำตอบและคำแนะนำดี ๆ มาช่วยไขความกระจ่างให้กับคุณแม่ทุกคนแล้วค่ะ

คนท้อง

การเดินทางของคนท้องในแต่ละช่วงอายุครรภ์

          การเดินทางในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์นั้น อาจเป็นช่วงที่ค่อนข้างลำบากเล็กน้อยสำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องในช่วงระยะแรก ๆ เพราะอาจเกิดอาการอ่อนเพลีย หน้ามืดได้ง่าย ทั้งยังเป็นช่วงที่ไม่ควรเดินทางไกลเป็นเวลานาน ๆ เพราะอาจเสี่ยงต่อการแท้งได้ เพราะในช่วง 3 เดือนแรกนั้น ตัวอ่อนยังฝังตัวกับผนังมดลูกไม่แน่น เมื่อเดินทางไกลหรือได้รับแรงกระแทกจากการเดินทางก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาดังกล่าว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่สุขภาพของคุณแม่แต่ละคนด้วยเช่นกันค่ะ

          ส่วนการเดินทางในช่วงไตรมาสที่ 2 หรืออายุครรภ์ประมาณ 4-6 เดือนนั้น นับว่าเป็นระยะที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณแม่ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายปรับสภาพกับการตั้งครรภ์ได้แล้ว คุณแม่สามารถเดินทางระยะไกลได้ แต่หากต้องเดินทางในช่วงไตรมาสที่ 3 หรืออายุครรภ์ 7-9 เดือนจนถึงก่อนคลอดนั้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไกล และแนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ก่อนเดินทางทุกครั้ง เพราะอาจมีการคลอดก่อนกำหนดได้ค่ะ แต่หากเป็นการเดินทางระยะใกล้ ๆ จากบ้านไปที่ทำงานหรือร้านค้า ก็สามารถทำได้ แต่ควรเลือกประเภทการเดินทางที่เหมาะสม เช่น รถยนต์ เป็นต้น

การเดินทางของคนท้องบนยานพาหนะประเภทต่าง ๆ

คนท้อง

รถยนต์ส่วนตัว

          หากคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องเดินทางด้วยรถยนต์ ควรคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง โดยรัดเข็มขัดให้สายล่างอยู่ต้นขา และสายบนพาดคล้องผ่านไหล่ พร้อมกับเลื่อนที่นั่งปรับเบาะพิงหลังให้รู้สึกสบาย อาจเตรียมหมอนอิงสําหรับหนุนหลังและหมอนรองคอ หากเดินทางไกลอาจเกิดความปวดเมื่อยได้ แนะนำว่าควรหยุดพักทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อเข้าห้องน้ำและยืดเส้นยืดสาย แต่ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องขับรถเอง ควรปรับเก้าอี้ให้นั่งได้สะดวก และควรขับรถอย่างระมัดระวัง อย่ารัดเข็มขัดแน่นเกินไป และไม่ควรออกรถหรือหยุดรถอย่างกะทันหัน เพราะจะทำให้เข็มขัดนิรภัยรัดแน่นมากขึ้นค่ะ และไม่ควรขับรถไปไหนไกล ๆ หรือขับรถนานเกิน 6 ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะคุณแม่ที่ใกล้คลอดนั้นจะเกิดความรู้สึกอึดอัดและแน่นท้องมากขึ้น จึงควรงงดขับรถในช่วงนี้ค่ะ

รถโดยสารประจำทาง

          ในกรณีที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องโดยสารรถประจำทางหรือใช้บริการขนส่งมวลชนเพื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ นั้น ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ควรหลีกเลี่ยงรถที่มีคนหนาแน่น เพราะอาจถูกชนและกระแทกได้ โดยเฉพาะรถเมล์หรือรถไฟฟ้าที่มีคนเยอะ ๆ โดยควรระมัดระวังเวลาขึ้นลงบันไดหรือเดินเข้าออกจากตัวรถ ช่วงเวลาที่รถเบรกและออกตัว เป็นต้น และแนะนำว่าคุณแม่ควรนั่งช่วงตอนกลางของรถและติดกับทางเดิน เพราะสามารถลุกนั่งได้สะดวก ซึ่งการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางนี้ คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถเดินทางได้จนถึงช่วงอายุครรภ์ในไตรมาสที่ 3 แต่ก็ควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น แต่หากคุณแม่ท่านใดที่มีสุขภาพไม่ค่อยดีแนะนำว่าเดินทางด้วยรถแท็กซี่จะปลอดภัยที่สุดค่ะ

รถมอเตอร์ไซค์

          คุณแม่ตั้งครรภ์หลาย ๆ คนมีความจำเป็นต้องใช้รถมอเตอร์ไซค์ในการเดินทาง ซึ่งในช่วงอายุครรภ์ 3 เดือนแรก สามารถนั่งซ้อนท้ายหรือขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้โดยปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ขรุขระ หรือที่ที่ต้องเกิดการกระแทก เพราะอาจเกิดการแท้งได้ แต่ถ้าอายุครรภ์ตั้งแต่ 5 เดือนขึ้นไป แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการขึ้นมอเตอร์ไซค์ เพราะท้องของคุณแม่เริ่มโตขึ้น จะทำให้นั่งทรงตัวได้ลำบาก แต่หากมีความจำเป็นจริง ๆ ก็ควรให้ผู้ขับขี่ขับช้า ๆ อย่างระมัดระวัง และสวมหมวกกันน็อคด้วยทุกครั้ง

คนท้อง

รถไฟ

          การเดินทางด้วยรถไฟไม่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เพิ่งตั้งครรภ์ในช่วง 3 เดือนแรก เพราะรถไฟมีแรงกระแทกค่อนข้างสูง จึงอาจเสี่ยงต่อการแท้งได้ แต่หากตั้งครรภ์ในช่วง 4-6 เดือน ก็สามารถขึ้นรถไฟได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องดูแลตัวเองให้มาก ๆ โดยหลีกเลี่ยงตู้รถไฟที่มีคนเยอะ ๆ และควรเลือกที่นั่งริมทางเดินที่สามารถเข้าออกได้สะดวก ซึ่งหากต้องเดินทางไกลด้วยรถไฟแล้ว แนะนำว่าควรเดินทางในช่วงกลางคืน ยิ่งถ้าเป็นรถไฟตู้นอนก็จะดีที่สุด เพราะคุณแม่จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ

เรือ

          การเดินทางด้วยเรือสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น แนะนำว่าควรเป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่มากกว่าการเดินทางด้วยเรือขนาดเล็ก เช่น เรือหางยาวหรือเรือเร็วที่มีแรงกระแทกสูง แต่ทั้งนี้การเดินทางด้วยเรือค่อนข้างมีความเสี่ยงและเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะทางขึ้น-ทางลง เพราะพื้นเรืออาจเปียกและทำให้ลื่นได้ คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรระมัดระวังให้มาก หากไม่ชำนาญหรือมีอาการเมาเรือง่ายก็ควรหลีกเลี่ยง ทั้งนี้คุณแม่ตั้งครรภ์ในช่วงเดือนที่ 7-9 ก็ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยเรือเช่นกันค่ะ

เครื่องบิน

           ในการเดินทางด้วยเครื่องบินนั้น สำหรับคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ต่ำกว่า 28 สัปดาห์ สามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้โดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ แต่ถ้ามีอายุครรภ์ 29 สัปดาห์ขึ้นไป ต้องมีใบรับรองแพทย์และเอกสารแจ้งการตั้งครรภ์ ส่วนคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 35 สัปดาห์ หรือ 7 เดือนขึ้นไปห้ามขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด เพราะอาจมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้ ยกเว้นในกรณีที่มีเหตุจำเป็นและมีใบรับรองแพทย์มายืนยันแล้วเท่านั้นว่าคุณแม่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน และไม่มีความเสี่ยงที่จะคลอดในระยะเวลาอันใกล้นี้ เพราะการเปลี่ยนแปลงของความดันภายในห้องโดยสารอาจมีอันตรายต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้ค่ะ

           การเดินทางระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่คนท้องทุกคนสามารถทำได้ เพียงแต่ต้องดูให้เหมาะสมกับประเภทการเดินทางและอายุครรภ์ของคุณแม่ ยิ่งหากเป็นการเดินทางไกลด้วยแล้วก็ควรเตรียมเสบียงอาหารหรือยารักษาโรคไปด้วยเผื่อในกรณีฉุกเฉิน แต่ทั้งนี้ หากคุณแม่ท่านใดยังเกิดข้อสงสัยหรือยังรู้สึกไม่แน่ใจ แนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ที่รับฝากครรภ์ไว้จะดีที่สุดค่ะ

ข้อมูลจาก : americanpregnancy.org, acog.org, babycenter.in


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คนท้องเดินทางได้จนถึงกี่เดือน แนะวิธีเดินทางระหว่างตั้งครรภ์ที่คุณแม่ควรรู้ อัปเดตล่าสุด 24 กรกฎาคม 2563 เวลา 11:09:55 102,505 อ่าน
TOP