x close

ไม่รู้ถือว่าพลาด ! 5 วิธีกำจัดกลิ่นเหม็นเปรี้ยวบนเสื้อผ้า-ของใช้ลูกน้อย แบบปลอดภัยหายห่วง

          ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กน้อย ไม่ว่าจะอยู่วัยไหนก็มีนิสัยซุกซนกันตามประสา เดี๋ยวหันไปทำของกินหก เดี๋ยวออกไปเล่นซนจนตัวสกปรกเลอะเทอะบ้างล่ะ เรียกว่าวุ่นวายจนมนุษย์แม่แยกร่างไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มเก็บกวาดจากตรงไหนก่อนดี รู้ตัวอีกทีทั้งเสื้อผ้า ทั้งจานชามก็กองพะเนินเต็มไปหมด หากปล่อยไว้นานวันปัญหากลิ่นเหม็นเปรี้ยวและคราบสกปรกยิ่งถามหา แต่จะให้จัดการแบบขอไปทีก็คงไม่ได้ เพราะต้องมั่นใจก่อนว่าข้าวของเครื่องใช้ของลูกน้อยนั้นต้องสะอาดหมดจด ไม่มีสิ่งสกปรก ไม่มีสารเคมีตกค้าง ที่ทำให้ลูกแพ้หรือเป็นอันตราย



          แต่ ๆๆ วันนี้คุณแม่ไม่ต้องปวดหัวอีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะกระปุกดอทคอมมีเคล็ดลับดี ๆ 5 วิธีกำจัดกลิ่นเหม็นบนเสื้อผ้าและของใช้ลูกน้อยแบบง่าย ๆ มาฝากกัน รับรองว่าเห็นผลทันใจ แถมยังปลอดภัย 100% ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นตามไปดูกันเลย...

1. แยกผ้าสกปรกไว้ต่างหาก กลิ่นจะได้ไม่ปนกับผ้าอื่น

 
          คุณแม่ไม่ควรซักชุดของลูกร่วมกับคนอื่นในครอบครัว เพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียที่อาจแฝงอยู่ในเสื้อผ้าของผู้ใหญ่มาปะปน และควรแยกผ้าสกปรกมากออกจากผ้าสกปรกน้อยก่อนนำไปซักด้วยนะคะ คราบสกปรกและกลิ่นจะได้ไม่หมักหมมจนเหม็นอับกันไปหมด

2. แช่ผ้าสกปรกในน้ำเปล่าก่อนซัก จะช่วยขจัดคราบสกปรกได้ง่ายขึ้น

         
          การแช่ชุดที่สกปรกมากไว้ในน้ำสะอาดอย่างน้อย 30 นาทีก่อนนำไปซัก จะช่วยให้พวกคราบดิน คราบอาหาร หรือคราบนมที่แห้งแล้วเจือจางลง และซักออกได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ คุณแม่สามารถบีบมะนาวประมาณ 1-2 ลูกผสมลงไปด้วยเช่นกัน เพราะน้ำมะนาวนั้นมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ช่วยกัดคราบสกปรกได้ดีทีเดียวเชียวค่ะ
 
3. เลือกใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนสำหรับเด็ก


          ต่อให้มีเคล็ดลับดีขนาดไหน คงไม่สู้ใช้ผลิตภัณฑ์เด็กที่เหมาะสม คุณแม่ควรเลือกซื้อของที่ปราศจากสารเคมีอันตราย มีคุณสมบัติทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก อย่างที่เราเลือกใช้น้ำยาซักผ้า Teepol Baby Happy Care ในวันนี้ เพราะมีแต่ส่วนผสมจากธรรมชาติ เวลาใช้ไม่ต้องออกแรงอะไรมากมาย ก็สามารถขจัดคราบสกปรกได้หมดจด แล้วยังมีกลิ่นหอมสะอาด อ่อนโยน ไม่ทำร้ายจมูก ไม่ทำร้ายผิวอันบอบบางของเด็ก ๆ รวมถึงตัวคุณแม่เองอีกด้วย

4. เลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กโดยเฉพาะ


          ขาดไม่ได้เลยสำหรับคู่หูของน้ำยาซักผ้า นั่นก็คือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่คุณแม่ควรเลือกใช้สูตรอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิวเด็กเล็กเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ต้องมั่นใจด้วยว่า มีคุณสมบัติถนอมเนื้อผ้า ไม่ทำให้ชุดหดตัว ซึ่งน้ำยาปรับผ้านุ่มของ Teepol Baby Happy Care นั้นตอบโจทย์ได้ครบถ้วน คือหลังใช้แล้วสัมผัสได้เลยว่าชุดของลูกนุ่มขึ้น ฟูขึ้น ส่วนกลิ่นก็ออกละมุน ๆ ไม่ฉุนจนเกินไป

5. เลือกผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม-ของใช้ที่ได้มาตรฐาน



          การเลือกใช้น้ำยาล้างขวดนมและของเล่น คุณแม่ควรใส่ใจเป็นพิเศษเพราะเป็นของที่ลูกหยิบเข้าปากได้ตลอดเวลา ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกหลักอนามัย ปลอดสารพาราเบน สาร SLS รวมถึงกำจัดทั้งคราบฟิล์ม คราบน้ำลาย และกลิ่นของน้ำนมได้หมดเกลี้ยง ถ้าอยากมั่นใจ 100% ลองเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนมและเครื่องใช้สำหรับเด็กของ Teepol baby Happy Care เจ้าดีเจ้าเดิมได้เลยค่ะ เพราะเขาผ่านการทดสอบจากแพทย์มาแล้วว่าปลอดภัยหายห่วง
 
         
          หลังจากนั้น คุณแม่แค่นำทุกสิ่งอย่างไปตากให้แห้งก็เป็นอันจบทุกขั้นตอน โดยไม่ต้องห่วงเลยว่าจะมีกลิ่นอับชื้นหรือกลิ่นติดภาชนะกวนใจ เพราะถ้าเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะตากในที่ร่มหรือเจอวิกฤติอากาศแปรปรวนขนาดไหน ยังไงเสื้อผ้าและของใช้เจ้าตัวเล็กจะมีกลิ่นหอมฟุ้ง สะอาดติดทนทั้งวันเลยล่ะค่ะ 



          เห็นไหมคะว่าเคล็ดลับทั้ง 5 ข้อนั้นง่ายนิดเดียว แต่สยบทุกปัญหาได้อยู่หมัด แถมช่วยประหยัดเวลาทำงานบ้านไปได้ตั้งเยอะ คราวนี้ก็ถึงเวลาของคุณแม่ไปพิสูจน์กันบ้างแล้ว ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะดีอย่างที่เราว่าไว้หรือเปล่า แล้วอย่าลืมกลับมาแชร์ให้ฟังด้วยนะคะ ^^

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไม่รู้ถือว่าพลาด ! 5 วิธีกำจัดกลิ่นเหม็นเปรี้ยวบนเสื้อผ้า-ของใช้ลูกน้อย แบบปลอดภัยหายห่วง อัปเดตล่าสุด 28 มกราคม 2562 เวลา 17:39:23 3,919 อ่าน
TOP