โรคซึมเศร้าที่เกิดจากความเครียดและความกดดันจากการเลี้ยงลูก สามารถมีวิธีจัดการอารมณ์ซึมเศร้าได้ด้วยวิธีต่อไปนี้…
![โรคซึมเศร้า]( "โรคซึมเศร้า")
คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงเคยรู้จักกับ "อาการซึมเศร้าหลังคลอด" กันใช่ไหมคะ
ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ตั้งแต่ระหว่างตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด
มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนและความเครียดจากการเลี้ยงลูก
ซึ่งอาการซึมเศร้านี้ไม่จำเป็นต้องเกิดกับคุณแม่เพียงคนเดียวเสมอไป
แต่คุณพ่อก็สามารถเกิดความเครียดและมีภาวะซึมเศร้า จนอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน
"ความเศร้า" เป็นอารมณ์ที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ หากมีเรื่องใดมากระทบกระเทือนจิตใจ แต่สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าแล้ว เขาจะมีความบอบบางทางอารมณ์มากกว่าปกติ ซึ่งอาการของโรคนี้ไม่ได้มีผลมาจากความผิดปกติของจิตใจเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความผิดปกติของสมอง และความไม่สมดุลของสารสื่อประสาท 3 ชนิด คือ เซโรโทนิน นอร์เอพิเนฟริน และโดปามีน รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ ทั้งทางด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต และสภาพแวดล้อม
อาการของโรคซึมเศร้าที่เกิดขึ้นในคุณพ่อคุณแม่นั้นจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเลี้ยงลูกและการทำกิจวัตรประจำวัน มีความรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีสมาธิ ไม่มีความอดทน รู้สึกหงุดหงิดง่าย โกรธง่าย ร้องไห้ง่าย รู้สึกเหมือนขาดบางสิ่งบางอย่างในชีวิต มีอารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรงจนไม่สามารถเลี้ยงดูและมอบความรักให้กับลูกได้ ปลีกตัวออกจากสังคม ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง รวมไปถึงมีความคิดรุนแรงที่จะทำร้ายตนเองและลูก นอกจากนี้อาการซึมเศร้าของคุณพ่อคุณแม่ยังสามารถส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว โดยเฉพาะต่อตัวลูก ทำให้เด็กเกิดความเครียดและความกังวล อาจมีปัญหาทางพฤติกรรม มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตแย่ลง และอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าตามมาได้ด้วยเช่นกัน
การรักษาผู้ป่วยที่เป็น "โรคซึมเศร้า" สามารถทำได้ด้วยการไปพบจิตแพทย์ เพื่อทำการรักษาและบำบัดให้หายได้ และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะซึมเศร้าที่คุณพ่อคุณแม่เป็นอยู่ จึงควรรู้จักวิธีจัดการอารมณ์ของตนเองอย่างเหมาะสม เพราะหากคุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือกับโรคซึมเศร้าและปรับสภาพจิตใจได้เร็วแล้วก็จะส่งผลดีต่อตัวคุณเอง และยังช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นไปอย่างมีความสุข ดังเช่นวิธีรับมือกับโรคซึมเศร้าทั้ง 5 วิธีที่กระปุกดอทคอมเอามาฝากกันในวันนี้ค่ะ...
![โรคซึมเศร้า]( "โรคซึมเศร้า")
1. เข้าใจอาการ
โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่มีอาการต่อเนื่องระยะยาว แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการออกมาตลอดเวลา ทุกวันย่อมมีวันที่ดีและมีวันที่แย่ บางเหตุการณ์แย่ ๆ ที่เกิดขึ้นให้คุณจดบันทึกสิ่งนั้นไว้ ทำความเข้าใจกับมันและพยายามจัดการหรือหลีกเลี่ยงกับความรู้สึกนั้น ๆ รวมถึงพยายามก้าวข้ามความกังวลและความกลัวที่คุณเป็นคนสร้างขึ้นมา นอกจากนี้การคิดบวกและมองโลกในแง่ดีก็จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ในแง่ลบให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นค่ะ
2. อย่ากดดันตัวเอง
การเลี้ยงลูกให้สมบูรณ์แบบเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องการ แต่ในโลกนี้ไม่มีใครที่จะสมบูรณ์และเพอร์เฟกต์เสมอไปหรอกค่ะ ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่อย่าสร้างความกดดันให้กับตัวเอง แต่ให้คิดในแง่บวกเอาไว้ว่าสิ่งที่เราทำให้ลูกนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เราได้ทำเพื่อเขา เท่านั้นก็สมบูรณ์แบบสำหรับลูกที่สุดแล้ว
3. หาแรงสนับสนุน
อารมณ์ซึมเศร้าอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนรู้สึกว่าตัวเองอยู่โดดเดี่ยวเพียงลำพัง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะ ลองมองไปรอบ ๆ ตัวคุณสิคะ ยังมีญาติ ครอบครัว และเพื่อนฝูง คอยให้กำลังใจ พร้อมคอยช่วยเหลือคุณและครอบครัวอยู่เสมอ เพียงแค่คุณเปิดใจ เข้าไปพูดคุย แบ่งปันปัญหากับพวกเขา จะช่วยให้เราได้รับคำตอบและคำปรึกษาดี ๆ มาใช้ในชีวิตและการเลี้ยงลูกได้ค่ะ
4. หาเวลาพักสักนิด
คุณพ่อคุณแม่ที่ประสบปัญหาโรคซึมเศร้าอย่ามัวแต่โทษตัวเองว่าเป็นตัวปัญหาที่ทำให้เกิดเรื่องต่าง ๆ เลยนะคะ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่เกิดขึ้นจากอาการของโรคซึมเศร้า ไม่ได้เป็นความผิดของตัวคุณแต่อย่างใด ทางที่ดีคุณพ่อหรือคุณแม่ควรหาเวลาไปพักผ่อนหย่อนใจสักนิด ดูแลตัวเองบ้าง หาอะไรทำให้มีความสุข จะช่วยให้สภาพจิตใจของคุณดีขึ้น แต่หากไม่มีเวลาส่วนตัวเลยจริง ๆ ก็อาจวานญาติพี่น้องหรือจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลลูกก่อนสักพักให้ตัวคุณได้มีเวลาพักผ่อนบ้างค่ะ
![โรคซึมเศร้า]( "โรคซึมเศร้า")
5. ดูแลสุขภาพร่างกาย
การออกกำลังกายจะช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยให้สุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรง รวมถึงการเข้าพบจิตแพทย์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาของอาการ ก็จะช่วยบำบัดโรคซึมเศร้าให้หายได้ นอกจากนี้ควรหมั่นรับประทานผัก-ผลไม้และอาหารที่เป็นประโยชน์ มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยอาจนอนพร้อมกับลูก ๆ จะได้ไม่เหนื่อยและหงุดหงิดง่ายค่ะ
การเป็นพ่อเป็นแม่คนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ ไหนจะต้องดูแลทั้งงานบ้านและงานประจำ ต้องใช้เวลามาก ใช้เงินมาก ต้องมีความอดทน และมีความแข็งแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงต้องมีการจัดการทางอารมณ์ที่ดี ไม่อย่างนั้นอาจเกิดความเครียดสะสม มีความวิตกกังวลในการเลี้ยงลูกสูง จนเกิดเป็นภาวะโรคซึมเศร้าได้ ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดเริ่มสังเกตอาการว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่นั่น ควรรีบไปพบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาและเข้ารับการบำบัดรักษาให้เร็วที่สุดค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : yourtango.com, goodtherapy.org
"ความเศร้า" เป็นอารมณ์ที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ หากมีเรื่องใดมากระทบกระเทือนจิตใจ แต่สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าแล้ว เขาจะมีความบอบบางทางอารมณ์มากกว่าปกติ ซึ่งอาการของโรคนี้ไม่ได้มีผลมาจากความผิดปกติของจิตใจเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความผิดปกติของสมอง และความไม่สมดุลของสารสื่อประสาท 3 ชนิด คือ เซโรโทนิน นอร์เอพิเนฟริน และโดปามีน รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ ทั้งทางด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต และสภาพแวดล้อม
อาการของโรคซึมเศร้าที่เกิดขึ้นในคุณพ่อคุณแม่นั้นจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเลี้ยงลูกและการทำกิจวัตรประจำวัน มีความรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีสมาธิ ไม่มีความอดทน รู้สึกหงุดหงิดง่าย โกรธง่าย ร้องไห้ง่าย รู้สึกเหมือนขาดบางสิ่งบางอย่างในชีวิต มีอารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรงจนไม่สามารถเลี้ยงดูและมอบความรักให้กับลูกได้ ปลีกตัวออกจากสังคม ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง รวมไปถึงมีความคิดรุนแรงที่จะทำร้ายตนเองและลูก นอกจากนี้อาการซึมเศร้าของคุณพ่อคุณแม่ยังสามารถส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว โดยเฉพาะต่อตัวลูก ทำให้เด็กเกิดความเครียดและความกังวล อาจมีปัญหาทางพฤติกรรม มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตแย่ลง และอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าตามมาได้ด้วยเช่นกัน
การรักษาผู้ป่วยที่เป็น "โรคซึมเศร้า" สามารถทำได้ด้วยการไปพบจิตแพทย์ เพื่อทำการรักษาและบำบัดให้หายได้ และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะซึมเศร้าที่คุณพ่อคุณแม่เป็นอยู่ จึงควรรู้จักวิธีจัดการอารมณ์ของตนเองอย่างเหมาะสม เพราะหากคุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือกับโรคซึมเศร้าและปรับสภาพจิตใจได้เร็วแล้วก็จะส่งผลดีต่อตัวคุณเอง และยังช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นไปอย่างมีความสุข ดังเช่นวิธีรับมือกับโรคซึมเศร้าทั้ง 5 วิธีที่กระปุกดอทคอมเอามาฝากกันในวันนี้ค่ะ...
โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่มีอาการต่อเนื่องระยะยาว แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการออกมาตลอดเวลา ทุกวันย่อมมีวันที่ดีและมีวันที่แย่ บางเหตุการณ์แย่ ๆ ที่เกิดขึ้นให้คุณจดบันทึกสิ่งนั้นไว้ ทำความเข้าใจกับมันและพยายามจัดการหรือหลีกเลี่ยงกับความรู้สึกนั้น ๆ รวมถึงพยายามก้าวข้ามความกังวลและความกลัวที่คุณเป็นคนสร้างขึ้นมา นอกจากนี้การคิดบวกและมองโลกในแง่ดีก็จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ในแง่ลบให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นค่ะ
2. อย่ากดดันตัวเอง
การเลี้ยงลูกให้สมบูรณ์แบบเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องการ แต่ในโลกนี้ไม่มีใครที่จะสมบูรณ์และเพอร์เฟกต์เสมอไปหรอกค่ะ ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่อย่าสร้างความกดดันให้กับตัวเอง แต่ให้คิดในแง่บวกเอาไว้ว่าสิ่งที่เราทำให้ลูกนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เราได้ทำเพื่อเขา เท่านั้นก็สมบูรณ์แบบสำหรับลูกที่สุดแล้ว
3. หาแรงสนับสนุน
อารมณ์ซึมเศร้าอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนรู้สึกว่าตัวเองอยู่โดดเดี่ยวเพียงลำพัง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะ ลองมองไปรอบ ๆ ตัวคุณสิคะ ยังมีญาติ ครอบครัว และเพื่อนฝูง คอยให้กำลังใจ พร้อมคอยช่วยเหลือคุณและครอบครัวอยู่เสมอ เพียงแค่คุณเปิดใจ เข้าไปพูดคุย แบ่งปันปัญหากับพวกเขา จะช่วยให้เราได้รับคำตอบและคำปรึกษาดี ๆ มาใช้ในชีวิตและการเลี้ยงลูกได้ค่ะ
4. หาเวลาพักสักนิด
คุณพ่อคุณแม่ที่ประสบปัญหาโรคซึมเศร้าอย่ามัวแต่โทษตัวเองว่าเป็นตัวปัญหาที่ทำให้เกิดเรื่องต่าง ๆ เลยนะคะ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่เกิดขึ้นจากอาการของโรคซึมเศร้า ไม่ได้เป็นความผิดของตัวคุณแต่อย่างใด ทางที่ดีคุณพ่อหรือคุณแม่ควรหาเวลาไปพักผ่อนหย่อนใจสักนิด ดูแลตัวเองบ้าง หาอะไรทำให้มีความสุข จะช่วยให้สภาพจิตใจของคุณดีขึ้น แต่หากไม่มีเวลาส่วนตัวเลยจริง ๆ ก็อาจวานญาติพี่น้องหรือจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลลูกก่อนสักพักให้ตัวคุณได้มีเวลาพักผ่อนบ้างค่ะ
การออกกำลังกายจะช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยให้สุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรง รวมถึงการเข้าพบจิตแพทย์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาของอาการ ก็จะช่วยบำบัดโรคซึมเศร้าให้หายได้ นอกจากนี้ควรหมั่นรับประทานผัก-ผลไม้และอาหารที่เป็นประโยชน์ มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยอาจนอนพร้อมกับลูก ๆ จะได้ไม่เหนื่อยและหงุดหงิดง่ายค่ะ
การเป็นพ่อเป็นแม่คนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ ไหนจะต้องดูแลทั้งงานบ้านและงานประจำ ต้องใช้เวลามาก ใช้เงินมาก ต้องมีความอดทน และมีความแข็งแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงต้องมีการจัดการทางอารมณ์ที่ดี ไม่อย่างนั้นอาจเกิดความเครียดสะสม มีความวิตกกังวลในการเลี้ยงลูกสูง จนเกิดเป็นภาวะโรคซึมเศร้าได้ ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดเริ่มสังเกตอาการว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่นั่น ควรรีบไปพบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาและเข้ารับการบำบัดรักษาให้เร็วที่สุดค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : yourtango.com, goodtherapy.org
