x close

แพ้ท้องต้องฝืนกิน...จริง ๆ หรือ ?

แพ้ท้อง

         แพ้ท้อง เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรกค่ะ แล้วลูกน้อยจะได้รับสารอาหารเพียงพอหรือไม่ ? วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปไขข้อข้องใจเรื่องอาการแพ้ท้อง และเรื่องอาหารการกินของว่าที่คุณแม่ เมื่อแพ้ท้องต้องฝืนกินเข้าไปจริง ๆ หรือ ทั้งที่กินไม่ไหวต้องทำอย่างไร เรามีคำตอบจากนิตยสาร บันทึกคุณแม่ มาฝากกันค่ะ

         ว่าที่คุณแม่จำนวนไม่น้อย... ที่ต้องเผชิญกับอาการผะอืดผะอม เบื่ออาหาร หรือที่ร้ายไปกว่านั้นคือ ได้กลิ่นอาหารเป็นไม่ได้ อยากจะอาเจียนขึ้นมาทันที บางครั้งแค่น้ำเปล่ายังกลืนไม่ค่อยลง ทั้งหมดนี้เป็นอาการแพ้ท้อง ซึ่งมักเกิดในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งแม้ว่าจะมีอาการดังกล่าว แต่คุณแม่ท้องหลายรายก็มักถูกคนรอบข้างกดดันว่า "ต้องฝืนกินนะ" หรือ "กลั้นใจกินไป คิดว่ากินเพื่อลูก" แหม !!! แต่ของอย่างนี้ใครไม่ท้องเองไม่มีวันเข้าใจจริงไหมคะ ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากกิน แต่มันกินไม่ลงจริง ๆ นี่นา เมื่อเป็นอย่างนี้ลูกจะแข็งแรงหรือเปล่า และคุณแม่ที่แพ้ท้องอย่างเราจะเลือกกินอาหารอย่างไร มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันค่ะ

แม่กินไม่ได้... ลูกกินอะไร ?

         ว่าที่คุณแม่ที่ไปตรวจครรภ์ครั้งแรก ๆ คุณหมอมักจะทำการอัลตราซาวด์เพื่อตรวจสอบอายุครรภ์ และดูว่ามดลูกมีความปกติดีหรือไม่ ซึ่งในการอัลตราซาวด์ครั้งแรกนี้ คุณจะเห็นตัวอ่อนตัวกระจิ๊ดขนาดเท่าเมล็ดถั่วเล็ก ๆ นั่นคือเจ้าตัวน้อยในครรภ์ และบ่อยครั้งคุณพ่อคุณแม่จะเห็นติ่งเล็ก ๆ ยื่นออกมาจากข้างตัวลูก ซึ่งคุณหมอจะบอกเราว่านั่นคือ ถุงไข่แดง (Yolk Sac) มีลักษณะเป็นเยื่อคล้ายพังผืด ทำหน้าที่เก็บอาหารเพื่อบำรุงตัวอ่อน ในขณะที่ยังไม่สามารถดูดอาหารจากรกได้โดยตรง เพราะในช่วงนี้รกยังคงพัฒนาไม่สมบูรณ์ ซึ่งฮอร์โมนที่ใช้ในการสร้างรกนี่เองที่ทำให้ว่าที่คุณแม่มีอาการแพ้ท้อง ดังนั้น ในช่วง 3 เดือนแรกนี้ อาหารที่คุณแม่รับประทานจะยังไม่ส่งผลถึงลูกโดยตรงเท่าใดนัก เพราะตัวอ่อนมีอาหารสะสมจากถุงไข่แดงมากเพียงพอ แต่กระนั้นก็จำเป็นต้องบำรุงตัวเองด้วยอาหารที่มีธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก ซึ่งหากรับประทานอาหารไม่ค่อยได้ คุณหมอจะสั่งวิตามินสำหรับแม่ท้อง ซึ่งมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์มาให้

แพ้ท้อง ต้องฝืนกินจริงหรือ ?

         หากว่าที่คุณแม่มีอาการแพ้ท้องประมาณ 3 เดือนแรก ไม่มากไปกว่านั้น การรับประทานอาหารเท่าที่พอจะรับประทานได้ ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไรค่ะ คุณแม่ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองจนเครียด เลือกรับประทานสิ่งที่พอรับประทานได้ไปก่อน เพราะอย่าลืมว่าในช่วงนี้ตัวอ่อนในครรภ์ยังมีอาหารจากถุงไข่แดงอยู่ แต่หากเข้าสู่เดือนที่ 4 แล้ว คุณแม่ยังมีอาการแพ้ท้องอยู่มาก รับประทานอะไรไม่ได้ ต้องระวังว่าทารกอาจเริ่มมีภาวะขาดอาหาร เพราะในช่วงอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ รกจะเริ่มทำงาน เจ้าตัวน้อยจะเริ่มได้รับอาหารจากมารดา หากคุณแม่แพ้หนักจนกินอะไรไม่ได้เลย เจ้าตัวน้อยก็อาจมีพัฒนาการที่ไม่สมบูรณ์ได้ ว่าที่คุณแม่จึงควรปรึกษาแพทย์ถึงอาการแพ้ที่ยังคงอยู่

         สำหรับอาการแพ้ในช่วง 3 เดือนแรก จนทำให้ไม่อยากอาหาร คุณแม่ควรหมั่นสังเกตตัวเองว่าวันนี้ อยากกินอะไร อยากดื่มน้ำอะไร หัวใจสำคัญที่จะช่วยทำให้คุณผ่าน 3 เดือนแรกแห่งการแพ้ท้องไปได้ก็คือ "อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ" คุณแม่บางรายต้องดื่มน้ำร้อนจัด ๆ เท่านั้น บางรายก็ต้องดื่มน้ำเย็นจัด หรือกินน้ำแข็งตลอดทั้งวัน บางรายอยากดื่มแต่น้ำหวาน ก็แนะนำว่าให้เลือกเป็นน้ำหวานเฮลซ์บลูบอยที่คุณแม่ผสมเองได้ จะได้ควบคุมไม่ให้หวานจัดเกินไปนัก ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน หากทำแล้วรู้สึกว่าดีขึ้นก็อย่าลังเลค่ะ เพียงแต่หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และจำกัดปริมาณคาเฟอีนในแต่ละวันก็เพียงพอแล้ว

ของดี รอก่อนก็ได้

         เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ คนรอบข้างที่ห่วงใยว่าที่คุณแม่ก็อาจเริ่มหาของดีมาบำรุงร่างกายคุณแม่ โดยหารู้ไม่ว่า อาการแพ้ท้องที่คุณเผชิญอยู่นั้น ทำให้ไม่อยากกินอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นของที่เคยชอบ หรือของกินที่เขาว่าดีมีประโยชน์สักเพียงไหน ไม่ใช่ว่าไม่รักไม่ห่วงลูกในครรภ์ แต่อาการที่คุณเผชิญอยู่นั้นมันทำให้กินอะไรไม่ลงจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแซลมอน นมออร์แกนิกส์ ผักปลอดสารพิษ เป็ดตุ๋นยาจีน ฯลฯ ดังนั้น คนรอบข้างก็ควรเข้าใจ และอย่ากดดันว่าที่คุณแม่มากเกินไปนะคะ รอให้คุณแม่ผ่านช่วงแพ้ท้องไปก่อน ซึ่งโดยทั่วไปหลังจากสัปดาห์ที่ 12 ไปแล้ว อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น เมื่อถึงเวลานั้นก็บำรุงได้เต็มที่ และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทารกดูดอาหารจากคุณแม่โดยตรงผ่านรกพอดี หนูน้อยก็จะได้ประโยชน์จากอาหารเหล่านั้น โดยที่คุณแม่ก็ไม่ต้องฝืนผะอืดผะอมจนรู้สึกเครียดอีกด้วย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.23 Issue 267 ตุลาคม 2558

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แพ้ท้องต้องฝืนกิน...จริง ๆ หรือ ? อัปเดตล่าสุด 16 พฤศจิกายน 2558 เวลา 15:49:12 14,567 อ่าน
TOP