x close

Amazing Baby Development ช่วงเวลาทองของวัยขวบแรก

พัฒนาการเด็กเล็ก

           พัฒนาการเด็กเล็กในช่วงวัยขวบปีแรกของลูกมีอะไรที่หน้าค้นหาและสร้างความประทับให้คุณพ่อคุณแม่ได้มากมาย วันนี้กระปุกดอทคอมมีเกร็ดความรู้เรื่องพัฒนาการของลูกในวัยขวบปีแรก และการรับรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวตั้งแต่แรกเกิด มาฝากค่ะ มาเก็บเกี่ยวความหัศจรรย์และความน่าทึ่งของเบบี๋กับนิตยสาร MODERNMOM กันค่ะ ><

           ในวัยขวบแรกคือช่วงเวลาทองที่ลูกน้อยมีพัฒนาการต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว เต็มไปด้วยสิ่งน่ารัก เรื่องราวน่าประทับใจ อย่าลืมเก็บเกี่ยวความทรงจำในช่วงที่คุณพ่อคุณแม่จะไม่มีวันลืมเกี่ยวกับลูกน้อยในวัยนี้

จำเสียงและกลิ่นของแม่ได้อย่างแม่นยำ

           ประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ก่อนที่ทารกน้อยจะสามารถแยกแยะระหว่างคุณแม่กับคนอื่น ๆ ได้ การได้ยินเสียงและการมองเห็นอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ลูกน้อยรับรู้และคิดถึงหากคุณแม่หายไป ที่น่ารักที่สุดคือ ทารกน้อยเก่งกาจมาก แม้ในช่วงแรกเกิดจะมองเห็นได้ชัดเจนแต่ระยะ 8-9 นิ้ว แต่ลูกสามารถจำเสียงและกลิ่นของคุณแม่ได้ตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เกิดเลยล่ะ เพราะฉะนั้นการพูดคุยกับลูกโดยแนบใบหน้าเข้าไปใกล้ลูก ให้ลูกจดจำใบหน้าของคุณพ่อคุณแม่ได้ จะช่วยให้ลูกน้อยแยกระหว่างคุณพ่อคุณแม่กับผู้ใหญ่คนอื่นได้เร็วขึ้น

พัฒนาการ : คว่ำ หงาย นั่ง คลาน ยืน ทำงานอย่างเป็นระบบ

           เมื่ออายุ 6 เดือน ลูกจะคว่ำหงายได้เอง สามารถนั่งโดยที่ศีรษะไม่ตกไปข้างหลังได้เองชั่วครู่ พอเดือนที่ 8 คลานได้คล่องขึ้น เข้าสู่เดือนที 9 นั่งได้มั่นคง คลานและเกาะยืน และประมาณอายุ 12 เดือนก็สามารถเกาะเดิน ยืนเองได้ชั่วครู่ อาจเริ่มต้นโดยแขนขาพัฒนาการด้านร่างกายต่าง ๆ เหล่านี้สำคัญกับลูกมากเป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ต้องกระตุ้นให้ลูกฝึกพัฒนาการของร่างกาย เล่นกับลูก ใช้ของเล่นล่อหลอกอย่างสนุกสนานให้ลูกฝึกคว่ำหงาย นั่ง คลาน และหัดเดิน จนเมื่อถึงวันที่ลูกเริ่มออกเดินก้าวแรกด้วยตนเอง นั่นคือรางวัลสำหรับคุณพ่อคุณแม่

มหัศจรรย์ภาษากาย สื่อภาษา ช่วยลูกพูดเร็วขึ้น

           การแสดงท่าทางประกอบคำพูดเป็นการสื่อสารภาษากายไปพร้อมกับภาษาพูด ช่วยให้ลูกเรียนรู้ภาษาพูดได้เร็วขึ้น แม้ว่าลูกน้อยยังพูดไม่ได้ แต่เบบี๋สามารถสื่อสารด้วยภาษากายได้แล้ว เช่น โบกมือ บ๊ายบาย ตบมือ ชี้มือ และกิริยาอาการอื่น ๆ ที่จะสื่อสารกับพ่อแม่ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ยิ่งลูกสื่อสารด้วยภาษาท่าทางมากเพียงใด ลูกก็จะสามารถสื่อสารด้วยภาพูดได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น เวลาคุณพ่อคุณแม่พูดคุยกับลูกผ้าสามารถแสงดเท่าทางประกอบได้ เช่น ถ้าจะชวนลูกไปกินอาหาร บอกลูกว่าถึงเวลากินอาหาร ไปกินข้าวกัน พูดไปด้วย พร้อมทำท่าทางกินข้าวไปด้วย เป็นต้น

           มีผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า เด็กเรียนรู้ภาษาเร็วขึ้น ถ้าพ่อแม่ชี้ไปที่สิ่งของต่าง ๆ ในขณะที่พูดถึงสิ่งของนั้นไปด้วย โดยลูกจะมองตามนิ้วมือที่ชี้ไปของพ่อแม่ และเมื่ออายุประมาณ 9-10 เดือน ลูกจะเริ่มสามารถหยิบสิ่งต่าง ๆ ตามที่บอกได้

           "No Language can express He power and beauty and heroism of a mother’s love."
           "ไม่มีค่าใด ภาษาไหน ที่จะให้นิยามอานุภาพแห่งความงามของความรักที่แม่มีได้เลย"

Amazing Blink Brain สิ่งมหัศจรรย์ของชีวิต

           สมองของลูกคือสิ่งมหัศจรรย์ที่เสกบันดาลให้ลูกสามารถเป็นอะไรก็ได้ ถึงใจปรารถนา การปลุกพลังสมองของลูกน้อยสามารถทำได้ตั้งแต่แรกเกิด

สมองใหญ่ขึ้น 64% ในเวลา 3 เดือน

           สมองของทารกมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจากตอนแรกเกิดถึง 64% ในช่วงอายุ 90 วันแรก หรือจะอธิบายอีกอย่างหนึ่งคือ สมองของทารกแรกเกิดมีขนาดเพียง 33% ของสมองผู้ใหญ่โตเต็มวัย และสมองของทารกจะเติบโตขึ้นจนมีขนาดเป็น 55% ของขนาดสมองผู้ใหญ่ในช่วงที่ลูกอายุประมาณ 3 เดือน

           โดมินิก ฮอลแลนด์ นักวัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้ติดตามการเติบโตของสมองส่วนต่าง ๆ ของทารกอายุ 3 เดือนแรก เขาพบว่าสมองส่วนซีรีเบลลัม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว เป็นสมองส่วนที่เติบโตมากที่สุดในช่วงวัยนี้ และขนาดของสมองส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อทารกอายุ 3 เดือน ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนว่าพัฒนาการในการควบคุมกล้ามเนื้อมัดใหญ่สำหรับทารกวัยนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก

พัฒนาการเด็กเล็ก

รับรู้อารมณ์พ่อแม่ผ่านเสียง

           ในขณะที่ลูกยังพูดไม่ได้ แต่สมองในด้านอารมณ์ความรู้สึกของลูกมีการพัฒนาไปมาก หนูน้อยสามารถรู้ได้ว่าพ่อแม่กำลังรู้สึกแย่ เมื่ออายุประมาณ 5 เดือน ลูกน้อยสามารถแยกระหว่างเสียงที่ให้ความหวังกับเสียงที่เศร้าหมองได้ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารด้านประสาทวิทยา และเมื่ออายุ 9 เดือนลูกจะแยกแยะได้ถึงเสียงอันโศกเศร้าของซิมโฟนีหมายเลขเจ็ดของบีโฮเฟน ออกจากเสียงเพลงที่สนุกสนานอื่น ๆ ได้

เสียงเพลง ความลับพัฒนาสมอง

           ภาษาแห่งเสียงเพลงคือภาษาของทารก จะเห็นได้ว่าเด็กน้อยเกือบทุกคนไม่สามารถต้านทานต่อเสียงดนตรีได้เลย ไม่ใช่เฉพาะเรื่องหูของลูกที่ปรับจูนเข้ากับจังหวะได้ แต่ลูกน้อยยังสามารถเต้นไปตามจังหวะเพลงได้อีกด้วย มีผลงานวิจัยเมื่อปี 2010  ที่ทดสอบเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะเต้นตามเสียงเพลงของเด็กทารก โดยนักวิจัยได้ทดลองเปิดเพลงคลาสสิก เปิดเพลงที่มีจังหวะ และพูดกับทารก แล้วบันทึกภาพปฏิกิริยาของทารก นักวิจัยยังได้ให้นักเต้นบัลเล่ต์มืออาชีพมาวิเคราะห์ว่าเด็กทารกเคลื่อนไหวได้สอดคล้องกับเสียงเพลงอย่างไร

           ผลปรากฏว่า เด็กน้อยเคลื่อนไหวแขน มือ ขา เท้า ลำตัว และศีรษะตอบสนองต่อเสียงเพลงมากกว่าตอบสนองต่อคำพูด นี่แสดงให้เห็นว่าความสามารถในการเต้นของมนุษย์มีติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด เมื่อรู้ว่าเด็กน้อยรักเสียงเพลงและการเดินขนาดนี้ ร้องเพลงให้ลูกฟัง เปิดเพลงให้ลูกฟัง และชวนลูกเต้นตามจังหวะเพลงให้ได้บ่อย ๆ จะช่วยเสริมพัฒนาการทางสมองของลูกได้ เสียงเพลงจะช่วยให้ลูกเรียนรู้จังหวะดนตรี เรียนรู้ภาษาจากเนื้อเพลง รวมไปถึงการได้พัฒนาการเคลื่อนไหวร่างกายด้วย

พูดคุยเสริมไอคิว

           ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรพูดคุยกับลูกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ "สมองคืออวัยวะที่แสวงหารูปแบบของสิ่งต่าง ๆ "จิล สแตมม์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสมองในวัยเด็กเล็ก และผู้เขียนหนังสือ Bright From the Start กล่าวว่า "ยิ่งสมองได้ยินเกี่ยวกับรูปแบบของภาษามากเท่าใด จะยิ่งช่วยให้ลูกเรียนรู้ภาษาได้ง่ายขึ้นมากเท่านั้น"

           เทรซี่ ศัทโชลว์ บรรณาธิการหนังสือ Brain Rules for baby แนะนำว่า การบรรยายสิ่งต่าง ๆ ที่ทำในชีวิตประจำวันให้ลูกฟัง โดยการพูดบรรยายสิ่งต่าง ๆ ที่ทำ และอธิบายสิ่งต่าง ๆ ที่เราคิดออกมาดัง ๆ ให้ลูกได้ฟังยู่เสมอ เสียงพูดของเราที่สอดคล้องไปกับสิ่งที่ลูกทำและเห็นจะช่วยกระตุ้นพลังสมองของลูกได้อย่างมากที่สุด

           เมื่ออายุประมาณ 3 ขวบ เด็กที่พ่อแม่พูดคุยด้วยอย่างสม่ำเสมอ จะมีระดับไอคิวมากกว่าเด็กที่ไม่ค่อยมีใครพูดด้วยประมาณ 1.5 เท่า และเมื่อเข้าเรียนประถมศึกษา เด็กกลุ่มที่มีคนพูดคุยด้วย จะมีทักษะการอ่าน การสะกดคำ และการเขียนที่ดีกว่า

มหัศจรรย์ "จินตนาการ" ได้ (สมอง) ดี

           อ่านหนังสือ หรือเล่านิทานให้ลูกฟัง เพื่อส่งเสริมจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ และภาษา เด็กเล็ก ๆ ชอบฟังเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งเรื่องที่เป็นจินตนาการในโลกแฟนตาชี หรือเรื่องราวในชีวิตประจำวันใกล้ตัวลูกก็ชอบฟังเช่นกัน หนังสือเล่มเดียวกัน หรือเรื่องราวจากนิทานเรื่องเดียวกัน สามารถประยุกต์เป็นกิจกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากเล่าเรื่องหรืออ่านหนังสือได้ เช่น แทนที่จะเล่าให้ฟังอย่างเดียวก็เปลี่ยนเป็นการปั้นแป้งโดว์ประกอบเรื่องราว หรือช่วยกันวาดภาพระบายสีประกอบเรื่องราวไปด้วย กิจกรรมประกอบการเล่านิทานเหล่านี้จะช่วยให้ลูกได้ทั้งเรื่องของจินตนาการ การใช้เหตุผล และความคิดสร้างสรรค์ การปั้นและการระบายสียังเป็นการกระตุ้นให้สมองใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กให้สัมพันธ์ไปกับการมองเห็น และการคิดจินตนาการเรื่องราวต่าง ๆ

พัฒนาการเด็กเล็ก

"อาหาร" มหัศจรรย์ของสมอง

           สมองของลูกจะพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพต้องได้รับพลังงานจากสารอาหารที่จำเป็น โดยเฉพาะกลุ่มสารอาหารที่ช่วยในการเจริญเติบโตของสมองและร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

           อาหารเสริมสมองอย่างแรกคือนมแม่ ซึ่งครบถ้วนทั้งสารอาหารเสริมสมอง ภูมิต้านทาน เมื่อถึงวัยอาหารเสริม คุณแม่ควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์เหมาะสมตามวัย ทั้งชนิดและลักษณะของอาหาร ในช่วงวัยเล็กนี้ ควรให้ลูกได้เรียนรู้รสชาติ รูปแบบ พร้อมทั้งสร้างลักษณะนิสัยการรู้จักเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ให้กับลูกไปด้วย โดยสารอาหารในกลุ่มพัฒนาสมอง เช่น ธาตุเหล็ก ไอโอดีน กลุ่มวิตามินบี และสังกะสี ส่วนแหล่งโปรตีนบำรุงสมองที่ดีที่สุดสำหรับเด็กคือ ปลา เลือกปลาที่มีไขมันมาก เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาทู ปลาสำลี ฯลฯ นอกจากลูกจะได้โอเมก้า-3 น้ำมันปลา เพื่อพัฒนาสมองแล้วยังได้โปรตีนคุณภาพ เหล็ก สังกะสี และสารอหารอื่น ๆ

มหัศจรรย์ของเล่นของสมอง

           ลูกจะเรียนรู้ได้ดีถ้าสามารถมีสมาธิเล่นอิสระได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งของเล่นเสริมสมาธิที่เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระ เช่น การต่อบล็อกไม้ การวาดรูประบายสี หรือการต่อจิ๊กซอว์ เป็นต้น สมาธิมีความสัมพันธ์กับการทำงานของสมอง การที่เด็กอยู่นิ่งและมีจิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ สมองส่วนหน้าที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับเหตุผลและการแก้ปัญหาจะสามารถรับและเก็บข้อมูลในเรื่องที่สนใจได้ดี

           "Behind all your stories is always your mother’s story. Because hers is where yours begin."
           เบื้องหลังความทรงจำทั้งชีวิตของคุณ มักจะมีเรื่องราวของแม่อยู่เสมอ เพราะแม่อยู่กับเราตั้งแต่เราลืมตาดูโลก




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.20 No.238 สิงหาคม 2558

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Amazing Baby Development ช่วงเวลาทองของวัยขวบแรก อัปเดตล่าสุด 11 กันยายน 2558 เวลา 15:45:30 7,267 อ่าน
TOP