x close

ทันตกรรมสำหรับเด็ก สำคัญแค่ไหน ?



          คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ บ้านอาจจะยังไม่รู้ว่า เมื่อลูกน้อยฟันขึ้นตั้งแต่ซี่แรกควมพาลูกน้อยไปทันตกรรม เพราะเด็กวัยขวบปีแรกมีโอกาสเกิดฟันผุได้ง่าย วันนี้กระปุกดอทคอมมีเคล็บลับในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยของลูกน้อยจากนิตยสาร Mother & Care มาฝากกัน ^_^

          ใครว่าเรื่องสุขภาพช่องปากนั้นต้องรอให้ลูกโตก่อน แล้วจึงติดตามดูแล ที่จริงสามารถดูแลกันตั้งแต่เล็ก ๆ จะดีกว่า ทั้งยังเป็น การป้องกันปัญหาต่าง ๆ ในระยะยาว ที่เกิดขึ้นได้ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ เป็นต้น มาทำความเข้าใจเรื่องนี้ ให้กระจ่างกันดีกว่า

เรื่องสำคัญ ทันตกรรมสำหรับเด็ก

          เด็กเล็กเป็นวัยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาของฟันผุสูง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กในช่วงหนึ่งขวบปีแรก ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กยังมีการดูดนมค่อนข้างบ่อย จึงมีความถี่ที่น้ำนมจะสัมผัสกับเนื้อฟันได้สูง หากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่สามารถทำความสะอาดฟันให้ลูกได้จะมีโอกาสเกิดฟันผุได้ง่าย

ฟันผุในระยะเริ่มแรก

          มักไม่แสดงอาการ พ่อแม่จึงไม่ทราบว่า ลูกเริ่มมีฟันผุแล้ว จนกระทั่งรอยผุลุกลามใหญ่ขึ้นจนทะลุโพรงประสาทฟัน จะส่งผลให้เด็กมีการติดเชื้อที่ฟันและมีอาการปวดฟันหรือมีตุ่มหนองที่เหงือก การรักษาฟันที่มีการผุลุกลามมากแล้วนั้นมักต้องฉีดยาชาร่วมกับการถอนฟัน หรือรักษารากฟัน ซึ่งเป็นการรักษาที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง นอกจากนี้ยังทำให้เด็กเกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อการทำฟันและเข้าพบคุณหมอฟันอีกด้วย

          ดังนั้นจึงควรพาเด็กมาพบคุณหมอฟันเพื่อทำการตรวจช่องปากและป้องกันฟันผุ ด้วยการเคลือบฟลูออไรด์หรือเคลือบหลุมร่องฟัน หากคุณหมอฟันพบรอยผุตั้งแต่ระยะแรกก็จะทำการอุดฟันแบบที่ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด นอกจากนี้อาจพบรอยโรคอื่นที่ผิดปกติในช่องปากได้ จึงแนะนำให้พบคุณหมอฟันเพื่อเข้ารับการปรึกษาหรือทำการรักษาเบื้องต้น

เมื่อไหร่พบหมอฟัน

          ควรพาเด็กเข้าพบคุณหมอฟันตั้งแต่ฟันซี่แรกหรืออย่างช้าอายุไม่เกิน 1 ปี คุณหมอฟันจะให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย

          นอกจากนี้ หากลูกน้อยขวบปีแรกไม่ยอมแปรงฟันจะแก้ปัญหาอย่างไรดี แล้วมีวิธีอื่นทดแทนหรือไม่นั้น มีคำแนะนำว่า :

ควรฝึกให้ลูกเคยชินกับการแปรงสีฟัน

          เช่น ให้ถือเล่น หรือลองใช้แปรงสีฟันเข้าปาก แต่ต้องเป็นแปรงที่เหมาะสมกับช่วงวัย รวมถึงการเลือกแปรงสีฟันที่มีสีสันสดใส

ควรทำเป็นลักษณะของกิจกรรมครอบครัว

          โดยการที่คุณพ่อคุณแม่ทำให้ลูกเห็นและให้ลูกทำตามไปพร้อม ๆ กัน

อาจเพิ่มความบันเทิงในขณะแปรงฟัน

          ด้วยการร้องเพลง จะเป็นการกระตุ้นความรู้สึกอยากแปรงฟันมากยิ่งขึ้น

          อย่างไรก็ตาม เด็กเล็กมักเป็นวัยที่ไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือในเรื่องของการแปรงฟัน พ่อแม่ต้องมีกำลังใจ และมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยทำความสะอาดช่องปากและฟันให้ลูกน้อย



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.11 No.126 มิถุนายน 2558


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทันตกรรมสำหรับเด็ก สำคัญแค่ไหน ? อัปเดตล่าสุด 10 สิงหาคม 2558 เวลา 13:45:23 5,258 อ่าน
TOP