เรื่อง : แม่ออมจัง
จุดซ่อนเร้นเพศหญิง มีความบอบบาง อับชื้นได้ง่าย การดูแล ทำความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย ฉบับนี้ เรามีข้อมูลการดูแลสุขอนามัยบริเวณจุดซ่อนเร้นของคุณแม่มาบอกค่ะ
การดูแลจุดซ่อนเร้น
นอกจากอาบน้ำ ถูสบู่ ปกติแล้วยังมีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการดูแลจุดซ่อนเร้นที่คุณแม่ควรรู้ด้วยค่ะ
ทำความสะอาด และซับให้แห้งทุกครั้ง หลังเสร็จภารกิจ ไม่ว่าจะหนัก หรือเบา
ไม่สวมใส่ชุดชั้นในที่รัดแน่นเกินไป เมื่อร่างกายเปียกชื้น จะทำให้เกิดเชื้อราที่จุดซ่อนเร้นได้ง่าย
การโรยแป้งเพื่อให้รู้สึกสบาย อาจทำให้เกิดกลิ่นอับได้ เพราะเหงื่อและแป้งทำปฏิกิริยาต่อกัน
ในช่วงที่มีประจำเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ อย่างน้อยทุก 2-3 ชั่วโมง เพราะการใส่ผ้าอนามัยในระยะเวลาที่นานเกินไปจะทำให้อับชื้น เกิดการหมักหมมของเชื้อโรค
ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้ผ้าอนามัยแบบสอด ต้องเน้นเรื่องความสะอาดมากยิ่งขึ้น
ไม่ควรใช้ยาสอด โดยไม่ได้รับการแนะนำจากคุณหมอ
ปัญหาที่อาจพบอาการคัน
ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่บางท่านอาจมีปัญหาเรื่องตกขาว ซึ่งเกิดจากเชื้อราที่ทำให้เกิดความชื้นในช่องคลอด และต่อมรูขุมขนแถวช่องคลอด ที่สร้างไขมันมากกว่าปกติ หรือจากการอุดตัน เรื่องที่ต้องระวังคือ ไม่ปล่อยให้เกิดการอับชื้นเป็นเวลานาน หรือเกิดเป็นตุ่มหนอง จนทำให้รู้สึกคัน เกิดเป็นแผลจากการเกา และกลายเป็นเรื่องการติดเชื้อตามมาค่ะ
ติดเชื้อ
ช่วงหลังคลอด คุณแม่อาจมีน้ำคาวปลาหลงเหลืออยู่บ้าง รวมถึงต้องดูแลแผลผ่าตัดคลอด ดังนั้น จึงต้องระวังไม่ให้ช่องคลอดมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ไม่ให้แผลมีสิ่งสกปรก เพราะจะเกิดการติดเชื้อได้ง่ายมาก คุณแม่ควรดูแลเรื่องความสะอาดให้มากปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันปัญหาการติดเชื้อที่ช่องคลอด และแผลผ่าตัดหลังคลอด
กลิ่น
เกิดได้หลายสาเหตุ เช่น คุณแม่ที่รูปร่างเจ้าเนื้อมักเกิดรอยพับ อาจทำให้ดูแลทำความสะอาดไม่ทั่วถึงเมื่อรวมกับเหงื่อของคุณแม่ ก็ยิ่งทำให้อับชื้นและเกิดกลิ่นนั่นเอง วิธีแก้ไข คือ การทำความสะอาด โดยเฉพาะชุดชั้นในที่สวมใส่ ควรเลือกเนื้อผ้าที่เบาสบาย ไม่เก็บความร้อน ทำให้อับชื้น และเน้นความสะอาด ตากให้แห้ง ป้องกันปัญหาเรื่องกลิ่นค่ะ
เรื่องของจุดซ่อนเร้น
ช่องคลอด จะมีเชื้อแบคทีเรียชนิดดี ที่รักษาสภาพความเป็นกรด-ด่าง ดูแลป้องกันเชื้อโรคที่จะเข้าไปในช่องคลอดอยู่แล้ว การสวนหรือล้างช่องคลอด ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ๆ จึงไม่มีประโยชน์ ทั้งยังอาจเสี่ยงต่อการทำให้เกิดแผลที่เนื้อเยื่อผนังช่องคลอด และการติดเชื้อได้ง่ายมาก
ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งครรภ์ มีผลกับเซลล์ผิวหนัง อาจทำให้เกิดตุ่มหรือผื่นที่ขาหนีบ และมีการระคายเคืองได้ ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ในช่วงนี้ สิ่งที่ต้องสังเกตคือ ผื่นหรือตุ่มไม่หาย มีอาการคันมากขึ้น อาการเช่นนี้ ควรไปพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุ ดูแลให้เหมาะสม เพราะอาจเกิดจากการแพ้สารเคมีของน้ำยาซักผ้าหรือผ้าอนามัยที่คุณแม่ใช้ก็เป็นได้ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.9 No.107 พฤศจิกายน 2556