1. พันธุกรรมที่ได้รับมาจากคุณพ่อคุณแม่โดยตรง
2. การเลี้ยงดู ซึ่งจะเชื่อมโยงถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อมและการศึกษาของลูก
3. โภชนาการ คือ การได้รับอาหารที่ดีและมีคุณภาพ
หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกฉลาดและมีสมองไว ก็ควรส่งเสริมพัฒนาการของลูกให้เหมาะสมกับวัย ได้แก่ การเปิดโอกาสให้ลูกได้เล่นทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตัวเอง โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยช่วยเหลือแนะนำ รวมถึงควรใส่ใจเลี้ยงดูลูกน้อยให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อให้ลูกได้รับการกระตุ้นและการฝึกฝนทักษะด้านต่าง ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการทำกิจกรรมของเด็กนั้น จะประกอบไปด้วยการทำงานของสมองหลายส่วน ที่ทำงานเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน เช่น การรับฟังคำสั่ง ตามองตัวต่อ ใช้นิ้วมือหยิบชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบ
ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าคุณแม่ก็มีส่วนสำคัญที่สามารถทำหน้าที่ดูแลและเสริมพัฒนาการสมองของลูกได้ตั้งแต่วันแรกของการตั้งครรภ์จนถึง 1,000 วันแรก ซึ่งเป็นช่วงที่สมองพัฒนารวดเร็วที่สุด นอกเหนือจากนี้เรื่องโภชนาการที่ดี ก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่จะละเลยไม่ได้โดยเด็ดขาด เพื่อให้อาหารเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างสมองลูกในช่วงที่สมองพัฒนารวดเร็วที่สุดใน 1,000 วัน
การสร้างลูกให้สมองไว
เพื่อให้สมองของลูกทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพนั้น ก่อนอื่นคุณแม่จะต้องเข้าใจก่อนว่าการทำงานของสมอง เกิดจากการสื่อสารกันระหว่างเซลล์ประสาท โดยมี "สารสื่อประสาท" ทำหน้าที่เป็นตัวกลางสำคัญในการส่งต่อข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาทที่มีอยู่นับล้าน ๆ เซลล์ในสมอง ซึ่งส่งผลต่อความทรงจำ การเรียนรู้ ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ และพฤติกรรมต่าง ๆ และ "เส้นใยประสาท" นี้เองที่ช่วยการสื่อสารในสมองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับสารอาหารสำคัญอย่าง แอลฟา-แล็คตัลบูมิน เป็นสารอาหารที่ล้ำค่าพบมากในน้ำนมแม่ เปรียบเสมือนเป็นอาหารบำรุงสมองของเด็กให้เฉลียวฉลาดและเติบโต ทั้งยังเป็นสารตั้งต้นในการสร้างสารสื่อประสาทที่สำคัญของลูกน้อย และเป็นส่วนประกอบของเส้นใยประสาทที่สำคัญสำหรับการทำงานของสมองอีกด้วย
ขุมทรัพย์การสร้างลูกสมองไว...ทำได้ง่ายด้วยนมแม่
สำหรับเด็กเล็ก ช่วงแรกเกิด – 6 เดือนนั้น นมแม่คืออาหารหลักของลูก เพราะในน้ำนมแม่นั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากกว่า 200 ชนิด ที่ช่วยตอบสนองความต้องการของลูกได้อย่างดีเยี่ยม มีทั้งวิตามิน ไขมัน แร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะแอลฟา-แล็คตัลบูมิน แหล่งโปรตีนคุณภาพสูงที่มีประโยชน์มากมาย แถมยังย่อยง่ายไม่ทำให้ลูกเกิดอาการท้องผูก
นอกจากนี้ แอลฟา-แล็คตัลบูมิน ยังมีสารอาหารสร้างสมอง ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้างสารสื่อประสาท และยังเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของเส้นใยประสาทที่เป็นตัวขับเคลื่อนการทำงานของสมอง ทำให้การสื่อสารในสมองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากเด็กขาดสารอาหารสำคัญ แอลฟา-แล็คตัลบูมิน ก็อาจส่งผลให้เกิดความบกพร่องในด้านพฤติกรรม อารมณ์ ความทรงจำ และการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้
เมื่อคุณแม่ทราบอย่างนี้แล้ว ก็ควรหันมาเตรียมความพร้อมของลูกน้อยในช่วง 1,000 วันที่สมองลูกพัฒนากำลังอย่างรวดเร็วให้ดีที่สุด ทั้งในเรื่องของการดูแลลูกเพื่อช่วยพัฒนาการเรียนรู้ รวมถึงการเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของสมองด้วยสารอาหารสำคัญอย่าง "แอลฟา-แล็คตัลบูมิน" เพื่อให้ลูกน้อยเฉลียวฉลาดและมีพัฒนาการด้านสมองที่สมบูรณ์ต่อไปในอนาคต