x close

ระวัง! ยาใกล้ตัวลูกรัก



ระวัง! ยาใกล้ตัวลูกรัก(Mother&Care)

          เมื่อลูกเจ็บป่วยไม่สบาย คุณพ่อคุณแม่อาจมีความจำเป็นต้องใช้ยากับลูกฉะนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ การใช้ยาอย่างถูกต้อง เหมาะสมและเพื่อเตรียมพร้อมเรื่องสุขภาพลูกน้อย รวมทั้งวิธีการใช้ยาตามอาการพร้อมกับคำแนะนำ เรามาฟังข้อมูลจาก พญ.สุรีย์พร กอบเกื้อชัยพงษ์ ค่ะ

1. ยาลดน้ำมูก

           กลุ่มยาลดน้ำมูกที่โดยทั่วไปเป็นยาแก้แพ้ผสมกับยาลดอาการบวมในจมูกและรวมถึงกลุ่มยาแก้แพ้เพียงอย่างเดียว ที่ช่วยลดน้ำมูกได้ด้วย เช่นคลอเฟมิลามีน ทั้งนี้ การใช้ยาลดน้ำมูกในเด็กจะต้องระวังให้มากเพราะยาแก้แพ้ช่วยลดน้ำมูกก็จริง แต่ทำให้เสมหะแห้งไปด้วย ดังนั้นเมื่อลูกไม่สบายมีน้ำมูกพร้อมกับมีเสมหะแล้วกินยาลดน้ำมูกอาจทำให้เสมหะเหนียวจนอุดตันหลอดลมมีผลต่อการนอนหลับของลูกได้เพราะเด็กเล็กไม่สามารถขับเสมหะได้เหมือนผู้ใหญ่ ดังนั้นก่อนเลือกใช้ยาลดน้ำมูก จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์

ข้อควรระวัง

           ยาลดน้ำมูกห้ามใช้กับเด็กที่เป็นหอบหืด เนื่องจากเสมหะจะเหนียวจนทำให้เกิดอาการหอบได้

           การได้รับยาลดน้ำมูกที่เกินขนาด จะทำให้กดการหายใจและอาจชักได้ และไม่ควรซื้อยาลดน้ำมูกตามร้านค้าทั่วไปมาใช้เองโดยเด็ดขาด

คำแนะนำ

           ถ้าลูกยังกินนมปกติ หายใจไม่หืดหอบ ไม่ติดขัด น้ำมูกเหลวไม่มีสีเขียว เหลือง(ติดเชื้อแบคทีเรีย) หรือมีน้ำมูกเล็กน้อย ด้วยเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงคุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลอาการในเบื้องต้นได้ก่อนโดยใช้น้ำเกลือหยอดจมูกหรือใช้ลูกยางแดงดูดออกหากอาการยังไม่มีดีขึ้นภายใน 2-3 วันควรรีบพาไปพบแพทย์

2. ยาลดไข้

           ยาลดไข้ที่จำหน่ายในท้องตลาด เป็นกลุ่มยาพาราเซตามอลที่มาในรูปแบบของไซรัปมีหลายขนาด และความเข้มข้น ดังนั้น สิ่งสำคัญในการใช้ยาลดไข้กับลูกน้อยคือคำนึงถึงน้ำหนักของตัวเด็กประกอบการใช้ยาซึ่งในเด็กเล็กจะเป็นรูปแบบของดรอฟ (ขนาด 20 ซี.ซี.)ปริมาณการใช้ที่เหมาะสมคือ ปริมาณ 0.1 ซี.ซี.ต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัมต่อหนึ่งครั้ง

ข้อควรระวัง

           ปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์ เพราะหากเกินขนาด ก็อาจเป็นอันตรายต่อตับและไตโดยเฉพาะกลุ่มยาลดไข้สูง ต้องพึงระมัดระวังเพราะสามารถกัดกระเพาะได้หากกินยาในขณะที่ท้องว่างหรือการกินยาแอสไพรินเพื่อลดไข้อาจไม่แนะนำ เพราะหากลูกมีโรคบางอย่าง เช่นไข้หวัดใหญ่ โรคอีสุกอีใส ก็อาจทำให้ตับวาย เป็นอันตรายถึงชีวิต

คำแนะนำ

           เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 6 เดือนมีไข้สูง นอกจากกินยาเพื่อลดไข้ที่บ้านทุกๆ 4-6ชั่วโมงแล้ว แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ด้วย สำหรับไข้ต่ำก็มีวิธีที่จะช่วยให้ไข้ลดลงด้วยการเช็ดตัวและสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่หนาเกินไปหรืออยู่ในห้องที่ร้อนเกินไปหรือเย็นเกินไป เพื่อระบายอากาศ

3. ยาละลายเสมหะ

           การไอในเด็กเล็กเป็นลักษณะการไอที่รู้สึกไม่สบายลำคอ และเมื่อเสมหะในลำคอหมด(ร่างกายสามารถขับเสมหะออกผ่านทางการไอ) อาการไอจะค่อย ๆ ทุเลาลงหากพบว่าเสมหะยังเหนียวและลูกน้อยไอขับออกลำบาก ก็ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อดูแลอาการอย่างเหมาะสมต่อไป

ข้อควรระวัง

           การใช้ยาระงับไอหรือเสมหะ อาจจะยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เนื่องจากทำให้เกิดการคั่งค้างของเสมหะ เพราะถ้าลูกดื่มน้ำได้มากพอไอไม่รุนแรง การใช้ยากลุ่มนี้ก็ไม่จำเป็น

คำแนะนำ

           ให้ลูกดื่มน้ำอุ่นบ่อย ๆ จะช่วยละลายและขับเสมหะได้เป็นอย่างดี




ขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ระวัง! ยาใกล้ตัวลูกรัก อัปเดตล่าสุด 13 ธันวาคม 2555 เวลา 15:41:22 20,637 อ่าน
TOP