x close

ทูไนท์โชว์ : อัพเดทความน่ารัก... น้องวิน ลูกชายสุดเลิฟของ วิลลี่-เยลหลี






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุรภาพประกอบจาก คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

         ถือได้ว่าเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยทีเดียว สำหรับน้องวิน เด็กชายธาดาฤทธิ์ แมคอินทอช ลูกชายสุดเลิฟของ วิลลี่-เยลหลี แมคอินทอช ที่คุณแม่เยลหลีนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นคุณแม่ที่ห๊วง หวง ลูกชายเป็นอย่างมาก... ก็แหม กว่าจะมีน้องวินได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคุณแม่เยลหลีต้องทำกิฟท์ถึง 23 ครั้งเลยทีเดียว ส่วนความน่ารักของน้องวินนั้นไม่ต้องพูดถึง พิสูจน์ได้จากภาพในอินสตาแกรมของคุณแม่เยลหลี ที่อัพเดทพัฒนาการและความน่ารักของน้องวินมาให้ชมกันอยู่เป็นประจำ จะเห็นได้ว่า น้องวินนั้นเป็นขวัญใจของพี่ป้าน้าอา หลาย ๆ คน เพราะทั้งน่ารัก น่าหยิก แถมยังเป็นเด็กอารมณ์ดีที่สุดเลยล่ะ

         และสำหรับในค่ำคืนของวานนี้ (5 พฤศจิกายน) คุณแม่เยลหลี และคุณพ่อวิลลี่ ได้เปิดตัวน้องวินในรายการทูไนท์โชว์ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่จะได้พูดคุยกันพร้อมหน้าพร้อมตา 3 คนพ่อแม่ลูก หลังจากที่เคยให้สัญญา กับ อาต๋อย ไตรภพ พิธีกร ว่า หากน้องวินโตพอที่จะรู้เรื่องแล้ว จะพามาให้แฟน ๆ รายการได้ยลโฉมกัน



         เริ่มต้นรายการด้วยการนำวิดีโอความน่ารัก ๆ ของวินมาเปิด โดยเป็นคลิปที่บันทึกอิริยาบถของน้องวินตอนกินแครอทครั้งแรก ซึ่งคุณพ่อยื่นแครอทให้กับมือ และน้องวินเอาเข้าปากเอง แต่พอลิ้มรสแครอทน้องวินถึงกับทำหน้าเหยเก ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็หัวเราะกันยกใหญ่ ทั้งนี้ คุณแม่เยลหลี เผยว่า อย่างที่รู้กันว่าเธอเป็นจอมตั้งกฎ แต่วิลลี่ขอไว้ว่าอย่าตั้งกฎให้ลูกเยอะ เธอเลยขอเพียง 2 ข้อเท่านั้น ข้อแรกคือ อยากให้ลูกนั่งกินข้าวเป็นที่ เธอจะไม่เดินไล่ป้อนอย่างเด็ดขาด ส่วนข้อสองคือ ต้องแยกห้องนอนกับลูกตั้งแต่เด็ก

         ส่วนการเลี้ยงแยกห้องนั้น เยลหลี กล่าวว่า ช่วงเดือนสองเดือนแรกก็นอนด้วยกัน เพราะลูกยังเล็กและยังต้องกินนมเธออยู่ แต่พอโตขึ้นมาสักนิด เธอก็จับแยกห้อง เพราะตามที่อ่านหนังสือเขาบอกว่า ช่วง 2 ทุ่ม ถึง ตี 2  หากปล่อยให้ลูกหลับสนิท โกรทฮอร์โมนก็จะทำงานอย่างเต็มที่ เลยอยากให้ลูกนอนยาว ๆ แบบไม่ต้องมีใครกวนใจ แต่เธอก็ติดกล้องวงจรปิด ทั้งกล้องกลางคืน เครื่องดักเสียง เครื่องดักฟัง เอาไว้ครบ หากลูกร้องสักแอะ เธอก็จะเดินไปดูทันที

 

         และเมื่อพิธีกรถามถึงวิธีการเลี้ยงลูก เพราะทราบมาว่า เยลหลีเป็นคนหวงลูกมาก และมีวิธีการเลี้ยงลูกค่อนข้างแปลก ซึ่งเธอหัวเราะพร้อมกล่าวว่า เธอก็เลี้ยงเหมือนลูกคนอื่น แต่อาจจะห่วงมากหน่อยเพราะกว่าเธอจะมีได้มันยากมาก ๆ ซึ่งเธอไม่เคยพาลูกออกจากบ้านเลยจนถึงอายุ 1 ขวบ เพราะเธอกลัวเชื้อโรค กลัวลูกไม่มีภูมิต้านทานแล้วจะป่วย แต่ตอนนี้ลูกอายุ 1 ขวบกว่าแล้ว ก็มีให้ออกไปเล่นบ้าง

         "ตอนนี้น้องวินโตขึ้น เลยพาไปเล่นในที่ที่เด็ก ๆ ชอบมากัน แต่พอไปแล้วน้องวินเอาของเล่นในนั้นมาอม จนป่วย เจ็บคอ พอไปหาหมอ หมอก็บอกให้ระวัง จากนั้นน้องวินเลยอด พอแล้วที่นั่น ไม่ให้ไปอีกแล้ว" เยลหลี กล่าว

         ด้านคุณพ่อวิลลี่ กล่าวเสริมว่า ตอนแรกเยลหลีเขาจะห่วงลูกมาก ซึ่งตอนนี้ก็เป็นอยู่ แต่อาจจะไม่มากเหมือนแต่ก่อน อย่างเช่นตอนนี้ พอไปเที่ยวศูนย์การค้ากัน ด้วยความที่ตนเป็นคนสาธารณะ ใครเห็นก็เข้ามาทักทาย และพอเห็นน้องวินก็เข้ามาจับแก้ม จับตัว ส่วนตนนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่คุณแม่เขาก็ยิ้มให้คนอื่น ๆ นะ แต่พอทักทายกันเสร็จก็รีบพาลูกเข้าห้องน้ำและหยิบทิชชูเปียกมาเช็ดหน้าเช็ดตาทำความสะอาดลูกใหญ่เลย (หัวเราะ)

         คุณพ่อวิลลี่ กล่าวต่อว่า พอพ้น 1 ขวบไปแล้ว เยลหลีก็ให้ลูกได้หยิบจับ และเล่นอะไรได้บ้าง ตนก็เต็มที่ให้ลูกได้เล่นสมใจอยาก บางทีก็คลานเล่นกับหมาบางแก้วอยู่ข้างล่าง เอามือไปจุ่มบ่อปลาคาร์ฟ กินอาหารปลา ตามสะดวก ซึ่งตนก็ห้ามพอสมควร แต่ก็ปล่อยลูกเล่น เขาจะได้มีภูมิต้านทานบ้าง (เยลหลี กล่าวเสริมว่า พอเล่นเสร็จวิลลี่อุ้มขึ้นไปข้างบนตัวน้องวินดำ มือไม้คลุกฝุ่นมาเลย)

         ถ้าถามเรื่องอาหารการกินนั้น เยลหลี เผยว่า เธอให้ลูกกินอาหารฟรีซ (เก็บไว้ที่ช่องแข็งในตู้เย็น) ไม่ใช่ว่าอาหารฟรีซไม่ดี คนไทยมักจะคิดไปเองว่าอาหารฟรีซนั้น วิตามินจะลดน้อยลง แต่จริง ๆ แล้วลูกสามารถกินได้ เพราะตนทำอาหารแต่ละครั้งก็ใส่ใจทุกวิธีการทุกขั้นตอน เลยทำให้ปริมาณมาก ๆ ตามหลักโภชนาการ พอทำเสร็จก็ใส่ฟรีซไว้ แล้วค่อยทำไปอุ่น ส่วนอาหารก็มีครบทุกอย่าง ผักทุกสี ไก่ ปลา หมู แต่เธอให้ลูกกินรสจืด ไม่ใส่เกลือ ใส่น้ำตาล เพราะเธอเป็นคนกินเค็มมาก เลยไม่อยากให้ลูกกินเค็มตามเธอ

         พอถามว่าลูกติดใครมากกว่ากัน ด้านคุณพ่อวิลลี่ กล่าวว่า ก็คงติดพอ ๆ กันแต่ติดคนละเรื่อง อย่างเช่น หากตื่นเช้ามาล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก็จะมาติดตน เพราะตนจะเป็นฝ่ายเอ็นเตอร์เทน พาลูกไปเล่น แต่ถ้าหากเขาง่วง หรือหิวนั้น จะไปหาแม่ท่าเดียวเลย บางครั้งสะบัดมือตนทิ้งเลยก็มี ส่วนเยลหลี กล่าวเสริมว่า ตนจะฝึกให้ลูกมีวินัยตั้งแต่เด็ก เขาจะมีตารางเวลาในแต่ละวันของเขา เช่น ตื่นเช้ามาต้องทำแบบนี้ ลงมากินน้ำ กินขนม จากนั้นอีก 1 ชั่วโมง จะต้องกินข้าว ทำทุกอย่างตามเวลา

         "ถ้าถามว่าลูกเราฉลาดไหม ก็ไม่อยากจะพูดเยอะเดี๋ยวคนอื่นจะเกลียด (หัวเราะ) คือเยลหลีซื้อตู้ที่ล็อกอัตโนมัติ กันลูกไม่ให้เปิดลิ้นชักเล่นเอง แต่ลูกเราสะเดาะล็อกเองได้ พอมารู้ที่หลังว่าวิลลี่สอน ซึ่งวิลลี่บอกว่าเขาสอนแค่ครั้งเดียวลูกก็เปิดเองได้เลย" คุณแม่เยลหลี กล่าว



         ส่วนด้านวิลลี่ ก็ขอเสริมว่า ตนก็ลองเปิด ๆ ทำท่าให้ดูว่า ให้กดแล้วเลื่อน กดแล้วเลื่อน ทำให้ดูสักสี่ห้าครั้งเอาไว้โชว์แม่ (หัวเราะ) พอเยลหลีมาเห็นก็โดนบ่นใหญ่ เพราะลูกเปิดปิดทุกอย่างเองได้หมด เลยต้องระมัดระวังทุกอย่างไม่ให้คลาดสายตา แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ให้แตะเลยคือปลั๊กไฟ

         "เรื่องเปิดลิ้นชักนั้น วินก็เคยโดนหนีบมาแล้ว ซึ่งตอนนั้นตนก็ถ่ายวิดีโออยู่ และบอกลูกว่าอย่าเล่น เตือนหลายครั้ง ลูกมองหน้าแต่ก็พยายามจะเล่นให้ได้ สรุปลิ้นชักหนีบมือร้องไห้จ้า แต่ตนก็ไม่เข้าไปช่วยนะ ยังถ่ายวิดีโอต่อไป เพราะมันเป็นจุดไคลแม็กซ์ของเรื่อง หากไม่โดนหนีบมือ ลูกก็จะไม่รู้ว่า ทำแบบนี้แล้วเจ็บตัว" วิลลี่ กล่าว

         ต่อกันด้วยเรื่องของภาษา สืบทราบมาว่า คุณแม่เยลหลีพูดภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส ส่วนคุณพ่อพูดไทยกับภาษาอังกฤษ แถมที่บ้านยังมีคนสวนและแม่บ้านเป็นคนประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งประเทศพม่า และเขมร งานนี้น้องวินจะมีงงเกี่ยวกับเรื่องภาษาหรือไม่ ด้านวิลลี่หัวเราะ และบอกว่า ถ้าพูดได้ทุกภาษาก็ดี เป็นการต้อนรับอาเซียนไปในตัว แต่จริง ๆ แล้ว อยากให้ลูกพูดได้ 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศส ส่วนคำแรกที่ลูกพูด คือ คำว่า "หม่ำ ๆ " กับคำว่า "แด๊ด"

        
จากนั้น อาต๋อย พิธีกรก็ถามว่า เมื่อไรจะปล่อยลูก คุณแม่เยลหลี กล่าวตอบว่า เธอกะไว้สักประมาณลูกอายุ 4-5 ขวบ เพราะพอเขาโตรู้เรื่องแล้วคงไม่อยากอยู่กับแม่ เด็กผู้ชายคงจะฟังพ่อมากกว่า แต่ต่อจากนี้อีก 4 เดือน รอน้องวินอายุ 18 เดือน ก็จะพาเข้าโรงเรียนแล้ว เป็นโรงเรียนเสริมพัฒนาการ แต่เธอก็ต้องอยู่ดูแลด้วยตลอด

         เมื่อถามถึงเรื่องทายาทคนที่สอง ที่แว่ว ๆ มาว่า เยลหลีเปลี่ยนใจหลังจากที่จะปิดอู่ขอมีน้องวินแค่คนเดียว เรื่องนี้สาวเยลหลีกล่าวว่า เธอไปหาหมอมา หมอบอกว่าผนังมดลูกดีขึ้นมากแล้ว และเธอก็ยังมีไข่ดี ๆ แต่แช่เย็นไว้ในโรงพยาบาลเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว อีก 4 ใบ ซึ่งเป็นลูกผู้หญิงทั้งนั้น เธอเลยอยากจะทำเพื่อลูก อยากให้ลูกมีเพื่อน เพราะเราสองคนก็อายุมากแล้ว หากไม่ได้อยู่กับเขา เขาก็ยังจะได้มีน้องช่วยกันดูแล 



         ถ้าถามว่า คาดหวังอะไรในชีวิตลูกบ้าง คุณแม่เยลหลีกล่าวว่า ทุกอย่างก็แล้วแต่เขา เขาอยากทำอะไรเราก็ให้เป็น สนับสนุนเขาในทุก ๆ อย่างอย่างเต็มที่ แต่ด้านวิลลี่ กล่าวว่า ตนฝันว่าตนจะถือร่มเดินตามลูกที่สนามกอล์ฟ อยากให้ลูกเป็นนักกอล์ฟ คงจะเป็นความสุขที่สุดเลยก็ว่าได้ และตนกับเยลหลีก็โครงใหญ่ หากฝึกลูกตั้งแต่เด็ก ๆ ก็น่าจะมีหวัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตนก็ว่าคนอื่นไว้เยอะ ทั้งเปิ้ล นาคร และหอย ว่าเตี้ย และเถิก กลัวจะมาลงที่ลูก กลัวลูกจะไม่สูง (หัวเราะ)

         ท้ายนี้ คุณพ่อวิลลี่ และคุณแม่เยลหลี ก็มีแพลนจะพาน้องวินไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ ที่สหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าน้องวินจะไม่รู้เรื่อง แต่ตนอยากจะเก็บความทรงจำในฐานะพ่อแม่เอาไว้ ว่าลูกเห็นของสิ่งนี้ครั้งแรกเขามีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง... อย่างไรก็ตาม คุณพ่อวิลลี่กล่าวว่า หลังจากมีน้องวิน ชีวิตตนก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทำทุกอย่างเพื่อลูก รีบกลับบ้าน อยากเห็นหน้าลูก ไม่อยากพลาดสักช็อตในช่วงชีวิตของเขา เช่น ลูกเดินได้ครั้งแรก ลูกพูดได้ครั้งแรก เลยพยายามจะอยู่กับลูกให้มากที่สุด ส่วนคุณแม่เยลหลีก็กล่าวว่า น้องวินเป็นสิ่งที่เติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทุกวันนี้ก็ทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อลูก เรียกได้ว่า เป็นความสุขที่สุดในชีวิต
 

         แหม... ครอบครัวนี้เต็มไปด้วยความสุข และเสียงหัวเราะจริง ๆ นะคะ ยังไงกระปุกดอทคอมก็ขอให้น้องวินมีน้องสาวตามใจปรารถนาของคุณแม่เยลหลีละกันคะ ^ ^






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทูไนท์โชว์ : อัพเดทความน่ารัก... น้องวิน ลูกชายสุดเลิฟของ วิลลี่-เยลหลี อัปเดตล่าสุด 6 พฤศจิกายน 2555 เวลา 18:26:08 1,543 อ่าน
TOP