x close

บริบาลลูกด้วยสมุนไพรในครัว



บริบาลลูกด้วยสมุนไพรในครัว
(modernmom)
เรื่อง : Wanya
ข้อมูลทางวิชาการ : นายแพทย์ลือชา วนรัตน์ คณบดีคณะแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณะสุข

          โบราณมีความเชื่อมากมายในการเลี้ยงเจ้าตัวเล็ก โดยเฉพาะการนำสมุนไพรใกล้มือมาใช้ในการดูแลลูกกับอาการเจ็บปวดเล็กน้อย ในขั้นเบื้องต้น แต่ความเชื่อทั้งหมดเหล่านั้นจะเป็นแค่ความเชื่อหรือ ความจริงวันนี้ Modern Mom ไปค้นหาคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันค่ะ

เกสรดอกบัวลดไข้

         ความเชื่อ : ถ้าลูกมีอาการไข้หวัด ลองหาเกสรดอกบัวหลวงมาฝนกับน้ำซาวข้าวหรือจะใช้เป็นน้ำผึ้งก็ได้ แล้วนำไปให้ลูกน้อยค่อย ๆ จิบจะช่วยแก้อาการไข้หวัดได้

          ความจริงจากคุณหมอ : จริง ๆ บัวใช้ได้ทุกส่วน ถ้าใช้เป็นยาผู้ใหญ่จะใช้ดีบัว ส่วนที่เป็นไส้ขม ๆ สีเขียว แต่ถ้าใช้กับเด็กให้เลือกเป็นเกสรดอกบัวเพราะจะอ่อนลงมาหน่อย มีฤทธิ์ขับลม ขับเสมหะ

4 สหายสู้หวัด

         ความเชื่อ : ถ้าลูกไม่สบายเป็นหวัดนำใบมะขามอ่อน หอมแดงเผา ตะไคร้ หรือใบมะกรูดในปริมาณที่พอเหมาะอย่าให้มากเกินไป เพราะลูกจะรู้สึกแสบร้อน นำมาผสมกับน้ำอุ่นนำมาอาบให้ลูก กลิ่นหอมระเหยของสมุนไพรเหล่านี้จะทำให้อาการหวัดของลูกบรรเทา ทางเดินหายใจ ปอดจะดีขึ้น แถมยังช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคหวัดและหืดหอบด้วย

          ความจริงจากคุณหมอ : ในตำราแพทย์แผ่นไทยและตำราหมอพื้นบ้านระบุว่า ตะไคร้ หอมแดง ใบมะกรูด มีฤทธิ์บำบัดโรคในอก ส่วนใบมะขามมีรสเปรี้ยวล้างพวกเสมหะต่าง ๆ ได้

กระเทียมไล่หวัด

         ความเชื่อ : กระเทียม 1 กลีบเล็ก ๆ นำมาหั่นบาง ๆ ก่อนจะบี้ให้แตกใส่ในแก้วที่มีน้ำร้อนแล้วปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที คุณแม่ให้ลูกดื่มวันละ 2 แก้วอาการหวัดจะบรรเทา แต่เมื่อหายแล้วตามตำราโบราณควรดื่มต่อไปอีก 1-2 วันหวัดจะหายดีขึ้น

          ความจริงจากคุณหมอ : องค์ประกอบหนึ่งของกระเทียม คือ กำมะถันที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสหวัดและสารชื่อว่า Macrophage ในกระเทียมจะกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือด ซึ่งจะช่วยต้านทานเชื้อโรคจากภายนอกไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย

คิ้วสวยด้วยอัญชัน

         ความเชื่อ : นำดอกอัญชันที่มีสีม่วงออกน้ำเงินมาเขียนคิ้วให้เด็กทารกทำให้เด็กมีคิ้วดก สวย นอกจากนี้ลองคั้นน้ำจากดอกอัญชันมาทาผมให้ลูกจะทำให้ลูกที่มีผมบางกลับมีผมดกดำสวยงาม

          ความจริงจากคุณหมอ :  ดอกอัญชันมีสารสำคัญอยู่หลายตัว ที่รู้จักกันอย่างดีก็คือ Anthocyanin โดยเฉพาะในดอก ซึ่งสารแอนโธไชยานินมีคุณสมบัติเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหลอดเล็ก ๆ ทำให้เลือดไปเลี้ยงรากผมได้ดี

ไพลสดแก้ปวดท้อง

         ความเชื่อ : เมื่อลูกมีอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ให้คุณแม่หาไพลสดนำมาล้างให้สะอาด ก่อนจะตำไพลสดให้ละเอียด และนำน้ำมันที่ออกมามาทาบริเวณท้องของลูกน้อย สรรพคุณของไพลสดจะช่วยลดอาการปวดท้อง ขับลมในท้องลูกน้อยได้ดี

          ความจริงจากคุณหมอ : สรรพคุณมีรสร้อนของไพลจะช่วยขับลมและช่วยให้โลหิตหมุนเวียนได้ดี ซึ่งถ้านำมาทาท้องเด็กก็จะช่วยให้ท้องหายปวดได้ ย้ำว่าสำหรับเด็กต้องใช้แค่ทา ห้ามให้เด็กกินเพราะไพลมีรสเผ็ด

ข้าวสารลดท้องอืดท้องเฟ้อ

         ความเชื่อ : โบราณมีความเชื่อว่าข้าวสารง่าย ๆ ในครัวนำมาแก้อาการท้องอืดของลูกได้เช่นกัน แค่คุณแม่นำข้าวมาคั่วไฟจนออกเป็นสีน้ำตาลก่อนนำมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาป้ายลิ้นเจ้าตัวเล็กในปริมาณเล็กน้อย คุณสมบัติของข้าวคั่วจะช่วยดูดแก๊สในกระเพาะอาหารทำให้ลดอาการท้องอืดได้

          ความจริงจากคุณหมอ : ข้าวสารนั้นปกติทางแพทย์แผนไทยถือเป็นอาหารที่มีรสเย็น ซึ่งจะแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อไม่ได้ จำเป็นต้องนำมาคั่วให้เป็นสีน้ำตาล ซึ่งจะทำให้ข้าวพองตัวขึ้น ซึ่งการที่ข้าวพองตัวขึ้นก็จะช่วยดูดซึมแก๊สได้ดี แต่หากไม่สะดวกจะใช้ข้าวคั่วก็เปลี่ยนมาใช้มหาหิงคุ์ได้เช่นกัน

ฟักเขียวผู้ช่วยเมื่อตัวร้อน

         ความเชื่อ : แค่นำฟักที่ปอกเปลือกแล้วมาต้มให้เจ้าตัวเล็ก โดยสามารถกินได้ทั้งเนื้อและน้ำ ถ้าเป็นเด็กที่กินนมผสมอยู่ให้ใช้ฟักเขียวส่วนที่ติดกับขั้ว ยาวประมาณ 3 นิ้ว ปอกเปลือกต้มน้ำจนฟักสุก แล้วเอาน้ำต้มฟักมาชงผสมนมให้กิน หรือจะใช้ไส้ฟักเขียวที่เอาเมล็ดออกแล้ว นำมาพอกหน้าผากหรือบริเวณที่ร้อนจัดจะช่วยลดความร้อนลงได้

          ความจริงจากคุณหมอ : ตามตำราแพทย์ไทยฟักมีรสเย็น โบราณเชื่อว่าจะดูดซึมความร้อนได้และขับถ่ายความร้อนออกมา ซึ่งจะเป็นการช่วยลดไข้ ตัวร้อน และไล่เชื้อหวัดออกมาได้

ตำลึงแก้พิษแมลง

         ความเชื่อ : แมลงกัดต่อย เช่น ยุงกัด โดนตัวบุ้ง คุณแม่ลองนำใบตำลึงสดล้างสะอาด 1 กำมือมาตำละเอียด คั้นเอาแต่น้ำแล้วมาทาบริเวณที่โดนแมลงกัดต่อยจะแก้พิษของแมลงได้

          ความจริงจากคุณหมอ : ในแง่ของการเป็นยาไทย ตำลึงมีคุณสมบัติเป็นยาเย็น มีฤทธิ์ในการขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้แพ้ แก้อักเสบ พิษแมลงกัดต่อย

Modern Mom’s Tip

          บางอาการพืชผักสมุนไพรในครัวก็ช่วยแก้อาการเบื้องต้นให้ลูกไม่ได้นะคะ คุณแม่ต้อสังเกตดี ๆ หากเข้าข่ายอาการเหล่านี้ คุณแม่ควรรีบทิ้งสมุนไพรไว้ในครัวแล้วอุ้มลูกไปหาคุณหมอด่วนค่ะ

         มีไข้สูง ตัวร้อนจัด ตาแดง ซึม ลักษณะนี้อาจเป็นอาการไข้หวัดใหญ่

         มีไข้สูง ตัวเหลือง อ่อนเพลียมาก หรือเจ็บแถวชายโครง ลักษณะนี้อาจเป็นโรคตับอักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ

         มีอาการไข้สูง ไอมาก หายใจมีเสียงผิดปกติ คล้ายอะไรติดคอ เด็กบางรายอาจมีอาการหน้าเขียว เป็นเช่นนี้ควรรีบพาลูกพบแพทย์เพราะอาจมีอาการของโรคคอตีบ

         ปวดท้องแถวสะดือ เวลาเอามือกดเด็กเจ็บปวดมากขึ้น หน้าท้องแข็ง อาจท้องผูกและมีไข้ หากเป็นเช่นนี้อาจเป็นไส้ติ่งอักเสบหรือลำไส้อักเสบ

Must Concern

          ใส่ใจก่อนใช้สมุนไพรกับลูก

         1.ใช้ให้ถูกต้น สมุนไพรแต่ละชนิดมีชื่อพ้องหรือซ้ำกัน บางท้องถิ่นก็เรียกไม่เหมือนกัน คุณแม่ควรทำความรู้จักกับสมุนไพรแต่ละชนิดให้ถูกต้อง สังเกตลักษณะเฉพาะ และใช้ให้ถูกต้น

         2.ใช้ให้ถูกส่วน แต่ละส่วนของสมุนไพรไม่ว่าจะเป็น ราก ใบ ดอกเปลือก ฯลฯ มีฤทธิ์ไม่เท่ากัน บางครั้งผลแก่ผลอ่อนยังให้ฤทธิ์ต่างกัน คุณแม่จำเป็นต้องรู้ว่าส่วนใดใช้เป็นยาได้หรือไม่ได้

         3.ใช้ให้ถูกขนาด อย่าใช้ปริมาณมากหรือน้อยเกินกว่าที่ตำราแนะนำไว้ สมุนไพรบางชนิดใช้น้อยไปก็ไม่เกิดผล มากไปก็เป็นอันตราย

         4.ใช้ให้ถูกวิธี สมุนไพรบางชนิดต้องใช้สด บางชนิดต้องต้ม คุณแม่ต้องใช้ให้ถูกวิธีอย่างเคร่งครัด เพราะถ้าใช้ผิดวิธีสมุนไพรบางตัวก็ออกฤทธิ์ไม่เต็มที่ หรืออาจมีผลข้างเคียงได้

         5.ใช้ให้ถูกกับโรค คุณแม่ต้องศึกษาให้ดี เพราะโรคบางโรคไม่ถูกกับยาบางตัว ใช้ผิดอาจทำให้อาการกำเริบหนักมากขึ้นไปอีก

         6.ใช้ให้ถูกกับวัย มูลนิธิสุขภาพไทยให้การยอมรับว่าสมุนไพรสามารถใช้กับเด็กได้ทุกวัยโดยไม่เกิดผลข้างเคียง โดยเฉพาะการใช้กับผิวหนัง แต่ถ้ากังวลว่าลูกน้อยจะแพ้ คุณแม่สามารถทดสอบได้โดยลองแตะ ๆ สมุนไพรเล็กน้อยบริเวณท้องแขนของเด็ก และทิ้งไว้สักประมาณ 15 นาที ถ้าไม่มีปฏิกิริยาว่าแพ้ก็สามารถใช้ต่อได้ ส่วนสมุนไพรที่ต้องมีการรับประทานแนะนำให้อยู่ในช่วงวัยที่เริ่มหม่ำ ๆ อาหารเสริมแล้ว

          อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : เลี้ยงลูกด้วยสมุนไพร ผู้แต่ง พญ.อารีย์ โอบอ้อมรัก สำนักพิมพ์เอเชียบูรพา







ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.17 No.203 กันยายน 2555

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
บริบาลลูกด้วยสมุนไพรในครัว อัปเดตล่าสุด 30 ตุลาคม 2555 เวลา 14:49:33 15,917 อ่าน
TOP