x close

ลูกอาการแบบนี้ หาหมอด่วน!

แม่และเด็ก

อาการแบบนี้ หาหมอด่วน! (Mother&Care)
เรื่อง : Orawan

          อาการผิดปกติเล็ก ๆ ต่อไปนี้ของลูกน้อยที่ดูเหมือนไม่จำเป็นต้องไปพบคุณหมอ แต่ถ้ามีอาการหนักขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรเพิกเฉยนะคะ เพราะอาจหมายถึงการมาเยือนของโรคร้ายก็ได้

1.ตัวเหลืองไม่หาย

          How : ลูกน้อยวัย 2 สัปดาห์แล้ว แต่ยังตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะก็เป็นสีเหลือง โดยเริ่มเหลืองที่ใบหน้าแล้วค่อย ๆ ไล่ไปลำตัว ขาและเท้า โดยเหลืองขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีอาการผิดสังเกต เช่น ซึม งอแง ไม่ดูดนม หรืออาเจียนร่วมด้วย

          Why : เด็กที่เหลืองมากจนเกินไปนั้นอาจทำให้เป็นอันตรายต่อสมอง เนื่องมาจากระดับของบิลิรูบินที่สูงขึ้นจนเป็นพิษต่อสมองและอาการตัวเหลืองเป็นอาการของโรคร้ายแรงบางอย่าง เช่น ตับอักเสบ ท่อน้ำดีตัน เป็นต้น

          Takecare : การได้รับนมแม่อย่างเพียงพอจะช่วยให้เด็กสามารถกำจัดบิลิรูบินได้ดีขึ้น แต่ถ้าลูกมีอาการตัวเหลืองถึงขา ซึม ไม่กินนม ควรรีบพามาพบคุณหมอโดยเร็ว เพื่อเจาะเลือดตรวจดูค่าสารเหลือง และทำการรักษา เพราะภาวะตัวเหลืองนั้นถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน อาจทำให้เด็กมีอาการผิดปกติ ชักเกร็งและพัฒนาการช้ากว่าเด็กปกติได้ค่ะ

2.สะดือเลือดออกและมีกลิ่นเหม็น

          How : สะดือลูกไม่แห้ง เวลาร้องหรือเบ่งมีเลือดออกซิบ ๆ บริเวณรอบ ๆ ขั้วสะดือบวมแดงและร้อน ร้องกวน เมื่อดมดูจะได้กลิ่นเหม็นผิดปกติ

          Why : ปกติแล้วสะดือจะแห้งและหลุดออกภายใน 5-10 วัน ไม่ควรมีกลิ่นเหม็น มีหนอง หรือมีเลือดออก (ยกเว้นเลือดซึม ๆ ช่วงที่สะดือใกล้หลุด) ถ้ามีอาการข้างต้นแสดงว่าสะดือลูกแฉะและเกิดการอักเสบแล้วค่ะ

          Takecare : เช็ดทำความสะอาดสะดือให้หมดทุกส่วน อย่างถูกวิธี โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อระหว่างสายสะดือกับบริเวณผิวหนัง หลังอาบน้ำและทุกครั้งที่ถ่ายอุจจาระ-ปัสสาวะเปื้อนสะดือ ที่สำคัญควรระวังอย่าให้แป้งฝุ่นเข้าไปบริเวณสะดือเวลาทาตัวลูกน้อย ถ้าสะดือเกิดอักเสบขึ้นเนื่องจากการติดเชื้อ รอบสะดือจะบวมแดงผิดปกติในกรณีเช่นนี้ คุณแม่ต้องรีบพาลูกไปหาหมอเพื่อทำการรักษาโดยเร็ว

3.มีขี้ตาออกมาก

          How : ตื่นเช้าขึ้นมาลูกมักมีขี้ตาออกมาก และมีน้ำตาเยิ้มอยู่ในลูกตาเสมอ

          Why : ลองดูที่ตาลูกดี ๆ จะเห็นขนตาด้านล่าง หลบเข้าไปด้านในแยงลูกตาอยู่ เมื่อกระจกตาได้รับการกระตุ้น น้ำตาจะไหลและมีขี้ตา โดยเฉพาะเด็กที่แก้มยุ้ยจนทำให้ขนตาล่างหันเข้าด้านใน หรือเป็นเพราะเยื่อตาอักเสบอย่างเฉียบพลัน ซึ่งจะสังเกตอาการเพิ่มเติม คือตาแดงร่วมด้วย อีกอาการหนึ่งที่พบได้บ่อย คือ ท่อน้ำตาอุดตัน ก็ทำให้มีน้ำตาคลออยู่เกือบตลอดเวลา

          Takecare : ถ้าลูกมีขี้ตามาก มีน้ำตาลคลอ เพราะขนตาแยงลูกตา ควรพาลูกไปให้คุณหมอทำการถอนขนตาที่แยงตาลูก แต่ถ้ามีอาการตาแดงและมีขี้ตาจนลืมตาไม่ขึ้น อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ควรรีบให้คุณหมอวินิจฉัยและรักษาโดยด่วนค่ะ

4.ฝ้าขาว-เชื้อราในปาก

          How : สังเกตเห็นฝ้าขาวแผ่นหนาในปาก ลูกน้อยร้องงอแง ไม่ยอมกินนม น้ำหนักลด

          Why : ฝ้าขาวมักจะเกิดกับเด็กที่กินนมแม่ แต่ต้องคอยดู เพราะบางทีอาจจะเป็นเชื้อราได้ ไม่ใช่แค่ฝ้านม กรณีที่เป็นเชื้อรามีลักษณะเป็นแผ่นคราบสีขาว แต่ติดแน่นเช็ดไม่ออก มักพบในเด็กที่กินนมผสมแล้วล้างจุกนมไม่สะอาด หรือมีสารปนเปื้อนอยู่

          Takecare : คุณแม่ป้องกันเชื้อราในช่องปากของลูกน้อยได้ โดยการรักษาความสะอาดในช่องปาก ถ้าเห็นว่าลูกเพิ่งเริ่มมีฝ้าขาว ๆ อาจใช้ผ้าบาง ๆ สะอาดชุบน้ำอุ่นเช็ดเบา ๆ ที่ลิ้น ฝ้าเหล่านั้นก็จะหายไปได้ ซึ่งลักษณะนี้ถือว่าไม่ได้เป็นอันตราย แต่ถ้าเช็ดแล้วฝ้าขาวยังไม่หมดไป ต้องพาไปพบคุณหมอแล้วค่ะ

5.ท้องเสียป่วนหนูจัง

          How : จู่ ๆ ลูกน้อยก็ถ่ายอุจจาระที่มีลักษณะหรือจำนวนครั้งผิดไปจากปกติที่เคยถ่าย และมีอาการร้องแบบเจ็บปวด เกร็ง กำมือแน่น ปลายเท้าจิกลงก่อนการถ่ายเหลว หรือถ่ายเป็นน้ำ แสดงว่าลูกมีอาการท้องเสียเกิดขึ้นแล้ว

          Why : ถ้าคุณแม่มั่นใจว่าอาหารและน้ำดื่มของเจ้าตัวเล็กถูกสุขลักษณะและสะอาดอย่างแน่นอนแล้ว ก็อย่าลืมว่า เชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกอาจมาจากมือของลูกน้อยในการหยิบจับของเข้าปาก หรือมาจากภาชนะที่นำมาใส่อาหารหรือเครื่องดื่มก็เป็นได้ นอกจากนี้อาจเกิดจากการติดเชื้ออื่น ๆ ในทางเดินอาหาร เช่น บิด อหิวาต์ ไทฟอยด์ เชื้อรา โรต้าไวรัส หรืออาจเกิดจากการแพ้นม แพ้อาหาร หรือได้ยาปฏิชีวนะบางตัวได้ด้วยเช่นกัน

          Takecare : หากลูกมีอาการถ่ายท้อง อาเจียนมาก ไข้ขึ้นสูง อ่อนเพลีย ซึม ควรพาลูกไปพบคุณหมอโดยด่วน เพราะร่างกายจะสูญเสียน้ำ อาหาร เกลือแร่มากกว่าปกติ ส่งผลให้ปริมาณเลือดในร่างกายลดลง สามารถทำให้ทารกเกิด "ภาวะขาดน้ำ" และ "ช็อก" ได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ควรรอช้า ระหว่างไปหาหมอควรงดให้นมขวดไว้ก่อน และให้น้ำต้มสุกแทนมาก ๆ ค่ะ

6.อาเจียนทุกครั้งหลังมื้อนม

          How : ลูกมีการอาเจียนพุ่งออกมาทุกครั้งหลังมื้อนม

          Why : เด็กอายุ 1-2 เดือนบางคนอาจอาเจียนนมเป็นประจำ บางครั้งการอาเจียนอาจเกิดจากการให้นมมากเกินไป หรืออาจเกิดจากภาวะการไหลย้อนกลับของนม เนื่องจากหูรูดระหว่างหลอดอาหารและกระเพาะอาหารเจริญไม่เต็มที่ ภาวะนี้ถ้าอาเจียนเล็กน้อยเด็กกินนมต่อได้ แข็งแรง ร่าเริง ถ่ายปกติ ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ เพราะเมื่ออายุ 3 เดือนจะหายไปเอง

          Takecare : ให้ลูกนอนหัวสูงเวลาให้นม หลังกินนมเสร็จ คุณแม่ควรอุ้มพาดไหล่หรือแขนแล้วตบหลังเบา ๆ ให้เรอทุกครั้ง สำหรับเด็กที่ไม่เคยอาเจียนนมมาก่อนเลย แล้วเกิดอาการขึ้นมา ทั้งยังแสดงท่าเหมือนเจ็บปวด ร้องทุรนทุราย หรืออาเจียนมีกลิ่นผิดปกติ มีสีเหลือง ๆ เขียว ๆ ปนออกมา คุณแม่ต้องรีบนำไปพบคุณหมอทันทีค่ะ

7.มีไข้สูงกะทันหัน

          How : ถ้าหนูน้อยมีไข้สูงกะทันหัน ก่อนอื่นคุณแม่ต้องกลับไปดูรอบตัวเด็กว่ามีใครเป็นหวัด ไอ มีน้ำมูกหรือไม่ เพราะอาจเป็นไปได้ว่า ลูกน้อยอาจติดหวัดเข้าแล้ว

          Why : อาการหวัดอาจเป็นแหล่งรวมของโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากเชื้อไวรัส หรืออาจเกิดจากโรคที่เด็กเป็นแล้วมักมีไข้สูง เช่น โรคหูอักเสบ ต่อมน้ำเหลืองใต้คางอักเสบ ไข้ส่า โรคปอดบวม ถ้าไข้สูงติดต่อกันถึง 4 วัน ควรตรวจปัสสาวะ ถ้าขุ่นมากอาจเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นต้น

          Takecare : คุณแม่ควรหมั่นเช็ดตัวลดไข้ และควรให้ลูกอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อช่วยให้ตัวลูกเย็นลง ถ้าไข้ขึ้นสูงและพบอาการข้างเคียง เช่น อาเจียน มีผดผื่น ให้รีบพาไปพบคุณหมอทันทีค่ะ






ขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.8 No.91 กรกฎาคม 2555

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลูกอาการแบบนี้ หาหมอด่วน! อัปเดตล่าสุด 28 สิงหาคม 2555 เวลา 15:24:35 42,331 อ่าน
TOP