เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก dailynewslight.ru, iwcp.co.uk
ช่างเป็นเรื่องปาฏิหาริย์จริง ๆ ที่ทารกตัวจิ๋วขนาดเพียงฝ่ามือเมื่อแรกคลอด ที่ทั้งคลอดก่อนกำหนด ทั้งน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ ทั้งสูญเสียฝาแฝดอีกคนไปซึ่งอยู่ในท้องมาด้วยกัน และเป็นทารกที่แม้กระทั่งหมอยังบอกว่าโอกาสรอดชีวิตไม่เหลือแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว !! แต่ตอนนี้เขาก็รอดชีวิตได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยปัจจุบันอายุ 6 เดือน และแข็งแรงดี ไม่มีอาการแทรกซ้อนที่น่าเป็นห่วงอย่างเด็กที่คลอดก่อนกำหนดทั่ว ๆ ไป
แสตนลีย์ แนช คือชื่อของเด็กน้อยนักสู้ที่เข้มแข็งคนนี้ เพราะหนูคือรางวัลแห่งความอดทนพยายามของคุณพ่อคุณแม่ นางรัธ และนายเกรแฮม แนช จากเมืองรายด์ เกาะไวท์ ประเทศอังกฤษ ตามรายงานจากเว็บไซต์เดลิเมลเมื่อวันที่ 2 เมษายน โดยเฉพาะฝ่ายคุณแม่ ที่ยอมนอนนิ่ง ๆ ในสภาพขายกสูงกว่าตัวถึง 2 สัปดาห์ เพื่อยังรักษาให้เจ้าหนูแสตนลีย์ได้มีเวลาเติบโตอยู่ในท้องอีกนิด ก่อนที่จะคลอดออกมาก่อนกำหนดด้วยอายุครรภ์เพียง 24 สัปดาห์เท่านั้น
เมื่อแรกตั้งครรภ์นั้นดูท่าว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความสุขของนายและนางแนช เพราะทั้งคู่กำลังจะมีลูกแฝดชายหญิง แต่ทว่าเรื่องร้ายก็มาเกิดขึ้นเมื่อนางแสตนลีย์เกิดอาการน้ำเดินเมื่ออายุครรภ์ได้เพียง 22 สัปดาห์เท่านั้น เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเซนต์ แมรี่ ในตัวเมือง และคลอดลูกสาว มาทิลด้า ออกมาเป็นคนแรก แต่ทว่าทารกน้อยกลับมีชีวิตรอดอยู่ได้เพียง 19 ชั่วโมงเท่านั้น แม้จะช็อกกับการสูญเสีย แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะยืดเวลาการคลอดลูกอีกคนที่ยังอยู่ในท้องออกไป เพื่อเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตแก่เขา นางแนชถูกส่งตัวโดยเรือเฟอร์รี่ไปยังโรงพยาบาลควีนอเล็กซานดร้า ซึ่งมีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องการกู้ชีวิตทารกแรกเกิด และนอนนิ่งอยู่บนเตียงในสภาพที่ขาทั้งสองถูกยกสูงขึ้นเหนือระดับตัวเป็นเวลาสองสัปดาห์ จนในที่สุดเธอก็คลอดแสตนลีย์น้อยออกมา ทว่าหนูน้อยมีขนาดเล็กเพียงฝ่ามือ แถมน้ำหนักแรกคลอดยังน้อยนิดเพียงปอนด์เดียวเท่านั้น (ราว 450 กรัม) เบากว่าถุงน้ำตาลทรายที่วางขายกันในซูเปอร์มาร์เก็ตเสียอีก
แม้แพทย์จะแจ้งว่าการที่เด็กคลอดก่อนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์นั้นมีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก ๆ และยิ่งน้ำหนักตัวเบาจนน่าตกใจอย่างแสตนลีย์ด้วยแล้ว โอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปนั้นแทบจะเป็นศูนย์ แต่กระนั้นเขาก็ถูกเร่งนำตัวไปยังห้องดูแลพิเศษ หนูน้อยต้องหายใจผ่านท่อช่วยหายใจอันจิ๋ว และเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนเพื่อซ่อมแซมรูรั่วที่หัวใจ และเช็คประสิทธิภาพการทำงานของดวงตา เพราะเด็กส่วนใหญ่ที่คลอดออกมาในอายุครรภ์ราว ๆ นี้เสี่ยงมากที่จะมองไม่เห็น
ทารกน้อยนอนอยู่ในห้องดูแลพิเศษท่ามกลางการดูแลใกล้ชิดของทีมแพทย์ นับเป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียดที่สุดสำหรับแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เป็นพ่อแม่อย่างนายและนางแนช ที่เสียลูกสาวไปแล้วคนหนึ่ง ก็ได้แต่เพียงมองดูลูกชายคนเดียวที่เหลืออยู่ผ่านห้องกระจก ยังไม่มีโอกาสได้อุ้ม โอบกอด หรือแม้แต่สัมผัสส่วนใดของตัวลูกน้อยเลยสักครั้งตั้งแต่คลอดออกมา
เวลาแห่งการรอคอยที่โหดร้ายและช่างยาวนานเหมือนไม่มีสิ้นสุดก็จบลง เมื่อเวลาผ่านไป 5 สัปดาห์ สแตนลีย์ก็ได้ออกจากห้องดูแลพิเศษ นั่นคือครั้งแรกที่นายและนางแนชได้อุ้มลูกชายน้อย ๆ ของตัวเอง ความรู้สึกในตอนนั้นช่างเป็นช่วงที่มหัศจรรย์ที่สุดสำหรับคนที่เป็นพ่อและแม่จริง ๆ
"ตอนที่ผมได้อุ้มลูกเป็นครั้งแรก นั่นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตเลย"
"ฉันรู้ว่าฉันเสียลูกไปแล้วคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันโชคดีที่สุดในโลกจริง ๆ"
แม้จะผ่านเหตุการณ์ความสูญเสียไป รวมทั้งความยากลำบากขนาดหนักเพื่อรักษาลูกน้อยอีกคนเอาไว้ แต่ทุกสิ่งที่ทำไปก็นับว่าคุ้มค่ามากจริง ๆ สำหรับนายและนางแนช ที่ แสตนลีย์ ทารกน้อยน่ารักน่าชังและเข้มแข็งเป็นที่สุด เติบโตอย่างปกติดี จนตอนนี้อายุ 6 เดือนแล้ว และเขาก็แข็งแรงดีเหมือนกับเด็กทารกทั่ว ๆ ไป ..ก็ขอให้พ่อหนูเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงต่อ ๆ ไป และเป็นที่รักของคุณพ่อคุณแม่มาก ๆ นะจ๊ะ หนูเก่งมากเลยนะ ^^
