x close

พลอย ชิดจันทร์..กับวันที่หายไป

พลอย ชิดจันทร์

ลูกพลอย ชิดจันทร์




พลอย-ชิดจันทร์..กับวันที่หายไป (M&C แม่และเด็ก)
เรื่อง : น้อง ณ เรวดี ภาพ : พี่ไม้
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram ploychidjun

          พลอย ชิดจันทร์ รุจิพรรณ สาวหน้าใสเด็กปั้นวิก 3 ที่โด่งดังจากบทร้ายในละคร "ปี่แก้วนางหงส์" ที่จู่ ๆ ก็หายไป พร้อมกระแสแอบซุ่มไปแต่งงานสายฟ้าแลบกับหนุ่มนอกวงการ โผล่มาอีกครั้งพร้อมแถลงข่าวการตั้งครรภ์ที่ทำเอาตะลึงไปตาม ๆ กัน เชื่อว่าหลายคนยังคงคาใจมีมากมายหลายคำถามเกี่ยวกับตัวเธอ ครั้งนี้ พลอย ชิดจันทร์ จะมาเคลียร์ทุกปัญหาที่ทุกคนอยากรู้พร้อม ๆ กับพาน้องชิโน่ ลูกชายวัย 11 เดือนมาแนะนำให้พวกเรารู้จักกันค่ะ

          พลอย ชิดจันทร์ ลูกสาวคนโตของครอบครัวรุจิพรรณ เธอเกิดและเติบโตที่จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มต้นเรียนที่อนุบาลบ้านเด็ก จบชั้นมัธยมจากโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย แล้วไปเรียนต่อที่ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ซึ่งที่นี่จะปลูกฝังเรื่องมารยาท และกฎระเบียบมากเป็นพิเศษ ทำให้พลอยเป็นเด็กเรียบร้อยและเรียนเก่งมาตั้งแต่เล็ก ๆ ซึ่งเธออาจได้เป็นทันตแพทย์หรือเภสัชกรสาวไปแล้วก็ได้ หากวันนึง เธอไม่ตัดสินใจขึ้นประกวดเวทีดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ลเสียก่อน


เวทีดัชชี่...เปลี่ยนชีวิต

          ตอนเด็ก ๆ ผลการเรียนของพลอยก็จะปานกลางนะคะ พอเริ่มเข้า ม.1 ผลการเรียนก็ดีขึ้น จนถึงม.4 ก็ย้ายไปเรียนที่ปรินส์ฯ พลอยเลือกเรียนสายวิทย์ เพราะคิดว่าจะเรียนต่อไปได้หลาย ๆ สาย ตอนแรก ๆ ก็อยากเป็นทันตแพทย์ ไม่ก็เภสัชกร เหมือนเป็นค่านิยมแบบเด็ก ๆ ที่เพื่อน ๆ กลุ่มเราก็จะคิดแบบนี้คล้าย ๆ กัน แต่วันนึงมีพี่โมเดลลิ่งที่เชียงใหม่มาชวนให้ไปประกวดเวทีดัชชี่ ที่จริงพลอยเองก็ไม่ได้สมัครนะคะ แต่เพื่อนเอาใบสมัครของพลอยไปส่งให้ โดยที่พลอยไม่รู้เรื่อง มารู้เรื่องอีกทีก็วันรุ่งขึ้นต้องไปประกวดแล้ว

          ...คนไปสมัครเยอะมากค่ะ พลอยก็ไม่คิดว่าจะได้หรอก จากคนเป็นพัน ๆ พลอยได้ที่ 3 ของภาคเหนือ แล้วก็ไปประกวดต่อที่กรุงเทพฯ ผลออกมาว่าพลอยได้รางวัล ไรซิ่งสตาร์ เหมือนเป็นคนที่โดดเด่นของการประกวด ก็ดีใจค่ะ ไม่คิดว่าเราจะได้ เพราะว่าตอนนั้นเราเป็นเด็กสุด ยังใส่เหล็กดัดฟันอยู่เลย ตอนนั้นแค่ 17 เอง แล้วคนอื่น ๆ ก็ดูโต ดูพร้อมกว่าเราทั้งนั้น ปีนั้นเป็นปี 2004 คนที่ได้ที่ 1 คือพี่นุ่น ศิรพันธ์ ค่ะ

          ...พอประกวดเสร็จ ชีวิตมันก็เลยพลิกผัน ตอนนั้นก็ต้องเรียนด้วยทำงานด้วย ไปกลับกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ตลอด ก็สนุก และรู้สึกชอบทำงานในวงการ ทีนี้พอถึงช่วงที่ต้องเลือกคณะเรียนต่อเข้ามหาวิทยาลัย พลอยก็มานั่งคิดว่าถ้าเราเป็นหมอฟัน เราจะมีความสุขเหรอ บวกกับมีผู้ใหญ่แนะนำว่า ลองไปสอบของมศว.สิ มีคณะศิลปกรรมการแสดงด้วยนะ พลอยก็คิดว่าน่าสนใจ เลยไปสอบดู ก็ปรากฏว่าสอบติดแล้วได้คะแนนอันดับ 1 ค่ะ

พลอย ชิดจันทร์

กลายเป็นสาววิก 3

          หลังจากนั้นก็มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ ค่ะ งานแรก ๆ ที่จำได้คืองานโฆษณาของสยามกรีนที แล้วพลอยก็ไปแคสตามช่องต่าง ๆ จนสุดท้ายช่อง 3 ก็เลือกเรา ตอนนั้นก็ได้ไปเรียนแอ็คติ้ง แล้วก็เริ่มมีละครทางช่อง 3 ช่วงนั้นต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แต่มันก็สนุก ได้ทำอะไรที่เราไม่เคยทำ มันเป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ค่ะ เพราะเมื่อก่อนเรียนหนังสือ เรียนพิเศษแล้วก็กลับบ้านเท่านั้น

          ...พลอยก็ไม่รู้ว่าพลอยมีชื่อเสียงจากเรื่องอะไรมากที่สุด ต้องถามคนดูเอาค่ะ เพราะรู้สึกว่าเราทำมาหลายงาน บางคนก็ชอบจากหนัง บางคนก็ชอบจากละคร แต่งานที่พลอยชอบที่สุดก็คือ ละครเรื่อง ปี่แก้วนางหงส์ เพราะว่าได้เล่นร้ายจริงจังเป็นครั้งแรก ก็ค่อนข้างเครียดเหมือนกัน แต่พอเล่นแล้ว มีคนชอบกันมากพลอยเองก็คิดว่าบทร้ายสนุกกว่าบทเรียบร้อยนะคะ

          ...นอกจากละครแล้วก็มีหนังด้วย อย่างเรื่องรับน้องสยองขวัญก็สนุกค่ะ ได้เจอเพื่อน ๆ เยอะแยะ งานร้องเพลงก็มีค่ะทั้งที่เมื่อก่อนพลอยร้องเพลงไม่ได้เลยนะ จะหลงคีย์ตลอด แต่หลัง ๆ ก็ต้องทำให้ได้ทุกอย่าง เราจะมาเลือกงานไม่ได้ แล้วทางช่อง 3 เขามีสัญจรด้วย พลอยก็เลยได้ฝึกไปในตัวบ่อยขึ้นจนได้ออกเทปรวมดาว 2007 ได้ร้อง 2 เพลงค่ะ


พลอย ชิดจันทร์...อำลาวงการ

          ช่วงหลังที่หายไป เพราะว่าพลอยต้องทำวิทยานิพนธ์ค่ะก็เคลียร์เรื่องเรียนก่อน ช่วงนั้นก็ไม่รับงานเลย พอตัดสินใจแล้วก็เลยไปบอกทางช่องค่ะ ช่วงที่พลอยหายไป ก็เริ่มคิดถึงงานนะคะ โดยเฉพาะละครก็คิดถึงมากที่สุดค่ะ นอกจากเรื่องเรียนแล้ว พลอยก็วางแผนไว้ว่าจะแต่งงานด้วยค่ะ

          ...แฟนพลอยเป็นคนฮ่องกงค่ะ ชื่อเคน เราเจอกันที่เชียงใหม่ คือเขาเป็นหุ้นส่วนกับคุณอาของพลอย ก็จะมาบ้านคุณอาบ่อย ๆ เจอกันครั้งแรกในงานเลี้ยงปีใหม่ที่บ้านพลอย ตอนนั้นพลอยยังเรียนอยู่ม.6 เจอกันครั้งแรกพลอยไม่ได้ปิ้งนะ เคนเองก็ยังพูดไทยไม่ได้เลย พูดแต่ภาษาจีนกับอังกฤษ เจอกันในงาน วันรุ่งขึ้นพลอยก็กลับกรุงเทพฯ แล้วเขาก็โทรมาหาโทรคุยกันบ่อย แต่ช่วงนั้นได้เจอกันน้อยมาก เพราะว่าพลอยจะกลับบ้านประมาณ 2 อาทิตย์ต่อครั้ง พอกลับไปเชียงใหม่ได้เจอกัน ก็เริ่มไปกินข้าวกันแล้วก็คุยกันมาเรื่อย ๆ ค่ะ

          ...ครอบครัวของเคนเขาจะพูดภาษาจีนกลางกันค่ะ พลอยก็พูดไม่ได้ ตอนเจอพ่อแม่เคนแรก ๆ พูดกันไม่รู้เรื่องเลย ก็ต้องไปลงคอร์สเรียนภาษา แต่ไม่ค่อยได้ไปเรียนหรอกค่ะ เพราะตอนนั้นพลอยทั้งเรียนทั้งทำงาน กลับมาก็เหนื่อยแล้ว ถ้าต้องออกไปเรียนอีกก็ไม่ค่อยไหว หลัง ๆ เลยให้ครูมาสอนที่บ้าน ก็สบายหน่อย จบคอร์สสอนให้พูดภาษาไทยนะคะ ตอนนี้เขาก็พูดได้ทั้งไทย จีน อังกฤษ ก็พูดกัน 3 ภาษาเลยค่ะ

ปิดข่าว...แอบซุ่มแต่งงาน

          ช่วงแรก ๆ ที่พลอยรู้สึกชอบเขา ก็เพราะเวลาที่เขาโทรมา มักจะบ่นว่าญาติ ๆ ชอบชวนไปเที่ยวผับ แต่เขาไม่ชอบ ไม่อยากไป เราก็คิดว่าดีจังเลยเนอะ เพราะว่าผู้ชายไทยที่เรารู้จักเนี่ย เที่ยวตลอด อันนี้คือประเด็นแรกที่เราคิดว่าเขาโอเคดีนะ บวกกับทางครอบครัวพลอยทุก ๆ คนก็ชอบเคนค่ะ ช่วงที่คบกันก็เจอกันบ้าง แต่ไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ เหมือนคู่รักคนอื่น ๆ แล้วก็มีช่วงที่เราทะเลาะกันมีปัญหากันบ้าง เพราะบ้านเคนเป็นคนจีน ก็อยากให้แต่งงานได้แล้ว เพราะเคนเป็นพี่คนโต ก็จะต้องแต่งก่อน แต่ปัญหามันคือ ที่บ้านพลอยยังไม่โอเค เพราะพลอยยังอายุน้อยอยู่ เรียนก็ยังไม่จบ มันก็กดดันเราสองคนพอสมควรค่ะ

          ...เคนขอพลอยแต่งงานหลายครั้งมากค่ะ มาขอกับแม่เลยด้วย แต่แม่ก็บอกว่าให้เขารอไปก่อน แต่สุดท้ายแล้วด้วยความที่คุณย่าเคนป่วยหนักมาก แล้วคนจีนเขาเชื่อว่าถ้ามีงานมงคลก็จะทำให้อะไร ๆ ดีขึ้นได้ ถ้ามีหลานก็จะยิ่งดีใหญ่พ่อเคนก็อยากให้ย่าดีขึ้น เลยตัดสินใจแต่งงานกันเดือนมิถุนายน ปี 2552 ก็มีพิธียกน้ำชาที่ฮ่องกงค่ะ ตอนนั้นพลอยก็ยังไม่อยากบอกใคร กลัวกระทบเรื่องงานด้วย เพราะไม่รู้ว่าทุกคนจะเข้าใจเราไหม เพราะอายุเราก็ไม่ได้เยอะ ทำไมจะต้องรีบร้อนแต่งด้วย

พลอย ชิดจันทร์


โด๊ปนี้เพื่อลูกน้อย

          ตอนพลอยท้องเนี่ยไม่แพ้เลยค่ะ อาเจียนไม่ถึง 5 ครั้ง แค่อ้วนขึ้นเท่านั้น ไม่ได้อยากกินอะไรเป็นพิเศษเลยนะ คุณแม่เคนก็จะคอยหาอาหารบำรุงมาให้ตลอด ต้องกินอาหารดีมีประโยชน์เท่านั้น ทุกวันต้องกินนม รังนก ปลาแซลมอน ซุปไก่ เพื่อลูก คุณแม่พลอยก็แฮปปี้มากค่ะ ยังบอกเลยว่า ถ้าเป็นแม่เองก็ยังไม่รู้เลยว่า จะไปสรรหาอะไรมาให้พลอยกินได้ขนาดนี้ พอคลอดเสร็จปั๊บ ทุก ๆ เช้า 7 โมงคุณแม่เคนก็จะมาแล้วพร้อมอาหารเช้า แล้วก็กลับบ้านไปทำอาหารเที่ยง กินเสร็จก็จะกลับไปทำอาหารเย็นมาให้อีก อาหารโรงพยาบาลเนี่ยไม่ได้กินเลยท่านดีมาก ๆ เลยค่ะ พลอยเองน้ำหนักขึ้นมา 12 กก. เคนก็อ้วนขึ้น อาจจะเพราะกินเป็นเพื่อนเรามั้งคะ

          ...ตอนแรกพลอยตั้งใจจะไปคลอดที่ฮ่องกง แต่ว่าไปหาหมอมา 2 แห่งแล้ว เราไม่โอเค เพราะว่าเราคุยภาษาอังกฤษกัน แล้วเป็นอังกฤษแบบฮ่องกงด้วย เราก็ไม่มั่นใจหลาย ๆ อย่าง ก็เลยตัดสินใจเลือกคลอดที่เมืองไทยดีกว่า วันที่คลอดก็ไปนอนที่โรงพยาบาลเชียงใหม่รามอยู่ 5 ชั่วโมงครึ่ง ข้างเตียงฝั่งนึงก็เป็นแม่เคน ข้างนึงก็แม่พลอย เคนก็อยู่ด้วยตลอด ตอนแรกที่บ้านพลอยอยากให้ผ่า เพราะว่าไม่อยากให้เจ็บ แต่พลอยตัดสินใจว่าอยากคลอดธรรมชาติค่ะ

          ...ลูกคลอดออกมาหนัก2.8 กก. ตอนที่พลอยเห็นลูกครั้งแรก รู้สึกว่าลูกเราน่ารัก แก้มแดง แข็งแรงดี แต่คุณหมอมาบอกว่าเขาตัวเหลืองนะ ต้องให้อยู่ในตู้อบก่อน แล้วก็บอกอีกว่า เขาแพ้อะไรเยอะมาก อย่างถั่วปากอ้าก็กินไม่ได้ ลูกเหมือนโดนอะไรไม่ได้เลย พลอยก็ต้องจดพกไว้ตลอดค่ะ



ชิโน่...ตี๋น้อยของแม่พลอย

          พลอยตั้งชื่อลูกว่า ทาชิโน่ ค่ะ ผสมกันระหว่างไทยและจีน ตัว "ทาชิ" ก็มาจากคำว่า "Thai" ส่วน คำว่า "ชิโน่" มากจากคำว่า "Chinese" ชิโน่เป็นเด็กน่ารักค่ะ ไม่รู้สิลูกเรา เราต้องว่าน่ารักอยู่แล้วเนอะ เขาเป็นเด็กอารมณ์ดีนะคะ แวบแรกที่เห็นว่าเขาแข็งแรงก็ดีใจค่ะ นั่งมองหน้าเขาช่วงเวลานั้นมีความสุขมากเลย พอคลอดเสร็จ ท้องก็แฟบลงทันที เหลืออีกนิดเดียว พอให้นมลูกก็ผอมเหมือนเดิมค่ะ เพราะว่าพลอยให้นมลูกถึง 8 เดือนค่ะ

          ...ชิโน่เป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายมากค่ะ ไม่ร้องไม่งอแงเลยคนแถวบ้านยังถามว่าบ้านนี้มีเด็กจริงหรือเปล่า เพราะว่าไม่ได้ยินเสียงร้องเลย เท่าที่เลี้ยงมา พลอยแฮปปี้มากค่ะ ตอนนี้ชิโน่เริ่มคลานได้แล้ว ก็ต้องคอยจับคอยดูแลมากขึ้นค่ะ เคนเองเขาก็ช่วยเลี้ยงเยอะค่ะ เพราะว่าแรก ๆ พลอยก็ยังเจ็บแผลอยู่ ตอนกลางคืนก็ตื่นกันสนุกสนาน เพราะต้องปลุกลูกมากินนมทุก 3 ชั่วโมง เหมือนจะตื่นเต้นมากกว่า เลยหลับไม่ลงค่ะ

          ...เวลาคุยกับลูก ตอนแรก ๆ พลอยก็คุยกับเขาภาษาอังกฤษค่ะ แต่พอศึกษาข้อมูลอะไรมากขึ้น ก็คิดว่าไม่ดีกว่า เราน่าจะคุยไทยกับลูกไปเลย เพราะยังไงเขาไปเรียนอินเตอร์ก็ต้องเรียนภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ส่วนเคนก็คุยภาษาจีน โตขึ้นลูกก็จะได้ทั้ง 3 ภาษาค่ะ

กลายเป็นคุณแม่วัยใส

          ตัวพลอยเองก็เปลี่ยนไปมากตั้งแต่ตอนท้องแล้วล่ะค่ะ จากเมื่อก่อนที่เราต้องหมักครีมตัวนั้นตัวนี้ ดูแลตัวเองมาก แต่พอท้องปั๊บก็ไม่อยากให้ลูกโดนสารเคมีอะไรเลย แม้แต่นิดเดียวก็ไม่ทาเลย อาบน้ำลูกก็อาบน้ำเปล่า สบู่ก็ไม่ฟอก เหมือนบ้าเนอะ คิดเยอะไปหมดค่ะ ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตอาจจะไม่ค่อยเปลี่ยนนัก เพราะว่าพลอยเป็นคนที่ทำอะไรก็ค่อนข้างวางแผนอยู่แล้วค่ะ

          ...ทุกวันนี้พลอยอยู่ที่เชียงใหม่เป็นหลัก อาจจะไปฮ่องกงบ้างเดือนนึง แล้วก็กลับมาเชียงใหม่อีก เพราะว่าธุรกิจของครอบครัวเคน หลัก ๆ ก็จะอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง แล้วก็เชียงใหม่ค่ะ เป็นธุรกิจส่งออกลำไยอบแห้งค่ะ ตอนนี้ก็เปิดบริษัทใหม่อีกแห่งนึง พลอยก็ช่วยธุรกิจของเคนอยู่ด้วยค่ะ

          ...จริง ๆ แล้ว เราสองคนเป็นคู่ที่ไม่ค่อยหวานกันอยู่แล้ว เคนเองเขาก็เป็นคนตรง ๆ ง่าย ๆ มากกว่า ไม่เหมือนผู้ชายไทยที่จะพูดหวาน ๆ เราเองเป็นผู้หญิงบางทีก็อยากจะให้เขาพูดหวาน ๆ นะ ต้องบอกค่ะ อยู่ดี ๆ จะมาพูดเนี่ย ไม่มีค่ะ เรื่องความหวานหรือความโรแมนติกเนี่ย มันก็ลดลงเป็นธรรมดา เพราะว่าเราทั้งคู่เอาเวลาไปสนใจลูกมากกว่าค่ะ

วันข้างหน้าของน้องชิโน่

          อนาคตของชิโน่ พลอยก็แล้วแต่เขาค่ะ ถ้าอยากเข้าวงการเหมือนพลอย ก็ไม่มีปัญหา เพราะว่าเราเองก็ชอบงานในวงการอยู่แล้ว ถ้าลูกชอบก็จะสนับสนุนค่ะ ส่วนเรื่องเรียน พลอยก็ไปสมัครโรงเรียนอนุบาลให้ตั้งแต่อยู่ในท้องแล้วค่ะ วางแผนไว้แล้วว่าจบจากอนุบาลนี้แล้วจะไปเข้าที่ไหน อยากให้เรียนนานาชาติที่เชียงใหม่ พอโตขึ้นก็อยากให้เขาไปเรียนไฮสคูลที่ฮ่องกงค่ะ

          ...สำหรับลูกคนต่อไป จริง ๆ ก็อยากมีอีกนะคะ อยากมีลูกแฝดปีมังกรด้วย ก็ไปปรึกษาหมอมาแล้วค่ะ หมอที่เชียงใหม่บอกว่าเชื่อหมอเถอะอย่าทำเลย เพราะมดลูกเราดีไซน์มาเพื่อเด็กคนเดียวเท่านั้น หมอบอกว่าเราเห็นแต่ด้านดี ๆ ที่เขาประสบความสำเร็จ ด้านที่ไม่ดีก็มีนะ แต่ไม่มีใครอยากออกมาบอก เลยทำให้เรายังสองจิตสองใจค่ะ แต่ถึงยังไงก็คิดว่าจะมีลูกอีกแน่ ๆ เพราะว่าครอบครัวเราอยากให้มีลูกหลาย ๆ คนค่ะ

          เป็นอย่างไรบ้างคะกับการกลับมาของคุณแม่วัยใส พลอย ชิดจันทร์ คนนี้ เชื่อว่าแฟน ๆ หลายคนคงหมดข้อสงสัยในหลาย ๆ คำถามที่เคยคาใจกันมา และแม้ว่าทุกวันนี้ เธอจะยังไม่มีผลงานละครออกมาให้เราเห็น แต่เชื่อว่าผลงานการเลี้ยงน้องชิโน่นั้น พลอยจะสามารถทำได้อย่างดีไม่แพ้งานด้านการแสดงของเธออย่างแน่นอนค่ะ


อดีตสาวฮอตหน้าใสวิก 3

          คุณแม่วัยใส : ชิดจันทร์ ห่ง (พลอย)

          คุณสามี : แชป ยิน เคน ห่ง (เคน)

          อาตี๋น้อย : ทาชิโน่ โฮเฌ่อง ห่ง (น้องชิโน่)

          เวทีแจ้งเกิด : ประกวด ดัชชี่ บอย แอนด์ เกิร์ล 2004 ได้รางวัล Rising Star

          ละครเรื่องแรก : ลิขสิทธิ์หัวใจ

          ละครสร้างชื่อ : ปี่แก้วนางหงส์

          ละครทิ้งทวน : แม่ค้าขนมหวาน

          หนังดัง : รับน้องสยองขวัญ, สวยลากไส้



พลอย ชิดจันทร์ ท้อง ลูกคนที่ 3

พลอย ชิดจันทร์ ท้อง ลูกคนที่ 3

น้องชิโน่ น้องชิลี่ ลูก พลอย ชิดจันทร์




  คลิกอ่านความคิดเห็นของ เพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 34 ฉบับที่ 472 มิถุนายน 2554

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พลอย ชิดจันทร์..กับวันที่หายไป อัปเดตล่าสุด 22 เมษายน 2556 เวลา 15:00:17 15,421 อ่าน
TOP