x close

Bifidus ตัวช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงติดเชื้อทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ


         
          จุลินทรีย์ Bifidus คือจุลินทรีย์ที่ดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย คุณแม่รู้ไหมคะว่าประโยชน์ของ Bifidus นั้นสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในทางเดินอาหารและทางเดินหายใจให้กับลูกน้อยของคุณได้อีกด้วย

          จุลินทรีย์ในร่างกาย มีทั้งจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์และโทษ แต่ทั้งนี้ในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา มีการศึกษากันอย่างแพร่หลายเกี่ยวกับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์อย่าง "Bifidus" ซึ่งผลที่ได้ก็คือ จุลินทรีย์ตัวนี้สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคอุจจาระร่วง และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น หวัด หลอดลมอักเสบในเด็ก ๆ ได้ดี ซึ่งก็มีผลวิจัยและนักวิทยาศาสตร์หลายคนออกมายืนยันในเรื่องนี้เอาไว้ด้วย ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณแม่ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้กันค่ะ

          เริ่มจาก ในปี พ.ศ. 2432 Henry Tissier กุมารแพทย์ชาวฝรั่งเศส แห่งสถาบันหลุยส์ พลาสเตอร์ ปารีส ประเทศฝรั่งเศสได้พบเชื้อที่มีลักษณะเป็นรูปตัว Y จึงเรียกว่า "Bifidus" ต่อมาในปี พ.ศ. 2450  Elie Metchnikoff นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียแห่งสถาบันเดียวกัน ได้รายงานเกี่ยวกับจุลินทรีย์ที่หมักพวกคาร์โบไฮเดรตแล้วให้ผลผลิตเป็นกรด Lactic (Lactic acid bacteria, LAB) ทำให้กากอาหารในลำไส้ไม่เกิดการบูดเน่า (Putrefaction) และได้นำ LAB มาใช้รักษาโรคติดเชื้อที่ทางเดินอาหาร อุจจาระร่วง และอหิวาตกโรค ทั้งนี้งานของท่านยังได้รับรางวัลโนเบลอีกด้วย



          และในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จึงทำให้มีการศึกษาบทบาทของจุลินทรีย์ในลำไส้อย่างกว้างขวาง พบว่าในสัตว์ทดลองที่เลี้ยงให้อยู่ในภาวะปลอดเชื้อ ผลปรากฏว่า ระบบการปกป้องการรุกล้ำของเชื้อโรคเสียไป โดยมีเยื่อบุลำไส้ฝ่อ เนื้อเยื่อน้ำเหลืองที่ควบคุมระบบภูมิคุ้มกันพัฒนาน้อย มีการซึมผ่านได้มาก ชั้นเยื่อเมือกที่ปกป้องพื้นผิวของเซลล์เยื่อบุหายไป และการเคลื่อนไหวของลำไส้ผิดปกติด้วย ดังนั้นเมื่อได้รับเชื้อจากสิ่งแวดล้อม สัตว์ทดลองเหล่านี้จะติดเชื้อในเลือดอย่างรุนแรงจนถึงเสียชีวิต ส่วนในคนพบหลักฐานว่า ทารกได้รับ Bifidus ตั้งแต่อยู่ในมดลูก จึงได้รับการกระตุ้นให้สร้างสารปกป้องผิวเยื่อบุลำไส้ให้แข็งแรง โดยมีชั้นเยื่อเมือกปกป้องผิวเยื่อบุลำไส้ มีสาร IgA ไว้จับเชื้อ ทำให้ช่องว่างระหว่างเซลล์ติดกันดี ไม่ให้มีการซึมผ่านได้ง่าย มีพัฒนาการของเนื้อเยื่อน้ำเหลืองใต้ชั้นเยื่อบุลำไส้เกิดเซลล์ที่ตอบสนองต่อการติดเชื้อที่ลำไส้แบบป้องกัน และการบีบตัวของลำไส้ปกติ

เมื่อระบบภูมิคุ้มกันมีพัฒนาการปกติ ถ้าเกิดมีเชื้อเข้ามาและเกาะที่ผิวเยื่อบุลำไส้ จะมีการตอบสนองเพื่อกำจัดเชื้อตามขั้นตอน ดังนี้

          ผิวเยื่อบุที่ชั้นเยื่อเมือกจะมีสารที่ลวงให้เชื้อโรคจับ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าถึงผิวเซลล์เยื่อ

          เนื้อเยื่อน้ำเหลืองจะส่งท่อขึ้นมาตรวจสอบว่าเชื้อปล่อยสารพิษอะไร แล้วจะตอบสนองโดยการปล่อยสารภูมิคุ้มกัน IgA ชนิดไม่เฉพาะออกมาก่อนเพื่อทำลายเชื้อ ถ้าเป็นเชื้อที่เป็นมิตร ก็จะไม่ทำลาย โดยยอมให้อยู่ด้วย

          ต่อไปร่างกายจะสร้างคุ้มกันชนิดจำเพาะ Specific IgA เข้าจับทำลายเชื้อที่อาจฉวยโอกาสก่อโรคให้ได้ผลยิ่งขึ้น

          Bifidus ทำหน้าที่สื่อสารกับเซลล์เนื้อเยื่อน้ำเหลืองเพื่อตอบสนองต่อการติดเชื้อ เช่น ทำให้เม็ดเลือดขาวเคลื่อนเข้าล้อมเชื้อที่รุกล้ำได้เร็วขึ้น และเซลล์เม็ดเลือดขาวทำการฆ่าเชื้อ และยังกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันเพื่อปกป้องเยื่อบุลำไส้ ทั้งที่ลำไส้ และระบบทางเดินหายใจ



ผลในด้านภูมิคุ้มกัน


          จากการศึกษาโดยเชื้อ Bifidus กินร่วมกับการให้วัคซีนทั้งชนิดฉีดและกิน เมื่อตรวจเลือดวัดระดับภูมิคุ้มกันพบว่ามีระดับสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับ Bifidus เช่น วัคซีน Hib คอตีบ ไวรัสโรต้า ซามัลเนลลา โปลิโอ เป็นต้น

          ในด้านการป้องกันโรคที่เด็กเป็นกันบ่อย ๆ ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น หวัด หลอดลมอักเสบ มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่า เมื่อเสริม Bifidus ลงในนมของเด็กเล็กแล้วติดตามการเจ็บป่วยนาน 6 เดือน พบว่า อาการและความรุนแรงของโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้าลดลงเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม มีการศึกษาในฟินแลนด์เกี่ยวกับการป้องกันโรคทางเดินหายใจโดยการเสริม Bifidobacterium lactis + Lactobacillus GG. เข้าไว้ในนมผงสำหรับเลี้ยงทารกที่ไม่ได้กินนมแม่ ให้เริ่มกินตั้งแต่อายุก่อน 2 เดือน เปรียบเทียบกับทารกที่กินนมผงที่ไม่ได้เสริมจุลินทรีย์แล้วติดตามการรักษาไปนาน 12 เดือนพบว่า โรคการติดเชื้อทางเดินหายใจลดลงครึ่งหนึ่งในกลุ่มที่ได้จุลินทรีย์เสริม (28%) เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับจุลินทรีย์ (55%) เมื่อเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจก็มีอาการรุนแรงน้อย ไม่ต้องการยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์สูงในการรักษา ผู้วิจัยอธิบายว่า ที่พบเช่นนี้น่าจะเกิดจาก เซลล์เม็ดเลือดน้ำเหลืองได้รับการฝึกจาก Bifidus ให้ต่อสู้กำจัดเชื้อที่เยื่อบุทางเดินหายใจ และจุลินทรีย์ป้องกันการเติบโตของเชื้อที่ฉวยโอกาสก่อโรคบริเวณเยื่อบุทางเดินหายใจส่วนบน จึงเกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนน้อยกว่า

          จากผลวิจัยและการทดสอบเหล่านี้ สามารถยืนยันได้เป็นอย่างดีแล้วว่าการที่คุณแม่ให้ลูกรับประทานนมที่มีส่วนประกอบของจุลินทรีย์ Bifidus นั้นจะทำให้ลูกน้อยได้รับประโยชน์อย่างมากมาย โดยหลัก ๆ ก็คือการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ห่างไกลจากโรคทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ คราวนี้คุณแม่หลาย ๆ คนก็มั่นใจหายห่วง เลิกกังวลกันได้แล้วล่ะค่ะ




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Bifidus ตัวช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงติดเชื้อทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ โพสต์เมื่อ 28 กรกฎาคม 2558 เวลา 16:01:01 4,044 อ่าน
TOP