ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
อธิบดีกรมอนามัย ดันยุทธศาสตร์ชวนคนไทยมีลูก หลังพบว่าอัตราเด็กแรกเกิดลดฮวบ อันเนื่องมาจากคนไทยแต่งงานช้า ไม่ยอมมีบุตร และปัญหาการหย่าร้างที่เพิ่มสูงขี้น
วันที่ 22 เมษายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงผลสำรวจอัตราแรกเกิดเด็กไทยในปีที่ผ่านมา พบว่า มีเพียง 600,000 คน จากเดิม 800,000 คน เหตุผลที่เป็นเช่นนั้น เพราะคนไทยแต่งงานช้า และไม่ยอมมีบุตร รวมถึงปัญหาการหย่าร้างที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดย 1 ใน 4 ของคู่แต่งงานจะหย่าร้างกันภายใน 3 ปีให้หลัง
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีการปรึกษาหารือเกี่ยวกับปัญหานี้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน โดยได้ข้อสรุปแนวทางแก้ไขปัญหา 3 ข้อดังนี้
จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ชาย-หญิง ได้มาพบปะกัน เพื่อเพิ่มโอกาสการแต่งงานและมีบุตร จัดให้มีศูนย์ให้คำแนะนำวัยรุ่น การเตรียมความพร้อมมีบุตร ในอายุ 20 ปีขึ้น จากปัจจุบันพบคนไทยมีบุตรเร็ว ทำให้พบปัญหาเด็กมีพัฒนาการไม่สมวัย ให้มีกฎหมายบังคับหน่วยงานรัฐและเอกชนมีสถานเลี้ยงเด็กอ่อน หากไม่สะดวกต้องจัดให้มีศูนย์รับเลี้ยงเด็กใกล้ที่ทำงาน ซึ่งทางกรมอนามัยจะจัดอบรมพี่เลี้ยงไปฝึกอบรมเรื่องการเลี้ยงเด็กอ่อนให้ ในต่างจังหวัดไม่น่าห่วงเพราะมีสถานเลี้ยงเด็กเล็กแล้ว แต่จะขยายเป็นรับเด็กอ่อนเพิ่ม ตรงนี้กรมอนามัยจะจัดหลักสูตรดูแลคุณภาพพนักงานศูนย์เด็กอ่อนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปอบรมเรื่องการดูแลเด็กอ่อนอย่างถูกวิธีทั้งนี้นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้คนไทยมีบุตรโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเลี้ยงดูแล้วยังเป็นการเพิ่มพัฒนาการเด็กได้อย่างสมวัยด้วยจากเดิมที่พบว่าประเทศไทยมีเด็กที่พัฒนาการไม่สมวัยอยู่ประมาณร้อยละ 30 เปอร์เซ็นต์ โดยแนวทางดังกล่าวจะเสนอต่อ ครม. เพื่อพิจารณาภายในเดือนนี้ให้เป็นยุทธศาสตร์เร่งด่วน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
