x close

ร้อนใน...ปัญหาใหญ่ของแม่ท้อง



ร้อนใน...ปัญหาใหญ่ของแม่ท้อง
(รักลูก)
เรื่อง : เกื้อกูล

           เพราะเรื่องสุขภาพช่องปากของแม่ท้องนั้นละเลยไม่ได้เชียวนะคะ โดยเฉพาะปัญหาร้อนใน แม้เป็นแผลเพียงนิด ก็รู้สึกเจ็บจนไม่อยากกินอะไรเลยละค่ะ

แม่ท้องเป็นแผลร้อนในเพราะ ?

           โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้คุณแม่ท้องเป็นแผลร้อนในอยู่บ่อย ๆ มีดังนี้ค่ะ

           ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะฮอร์โมนของความเป็นหญิงที่มักส่งผลต่อการทำงานของ ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายคุณแม่ ยิ่งเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 จะมีฮอร์โมนจากรกเพิ่มสูงขึ้นอย่างอัตโนมัติ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนต่าง ๆ นี้ทำให้เกิดปัญหาแผลในช่องปาก มีผดผื่นผิวหนังผิดปกติ ผมร่วง และคันตามตัวเป็นต้น

           คุณแม่กินอาหารเสี่ยงสูง โดยอาหารบางอย่างสามารถกระตุ้นฮอร์โมนให้ทำงานไวมากขึ้นหรือแย่ลงได้ ซึ่งจะส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของคุณแม่มีความเสี่ยงอ่อนแอลง ทำให้คุณแม่ท้องส่วนใหญ่มีความไวต่อปฏิกิริยาทุก ๆ อย่างเยอะขึ้น

           นอกจากนี้ในลำไส้ของคนเราจะมีแบคทีเรียดีตัวหนึ่งที่ชื่อว่าแลคโตบาซิลลัส คอยป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ แต่ในระหว่างตั้งครรภ์ แลคโตบาซิลลัส มักจะทำงานแย่ลง ฉะนั้นลำไส้คุณแม่จึงไวต่อการกระตุ้นของสิ่งเร้าหรือสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย จึงไม่แปลกที่คุณแม่ท้องส่วนใหญ่จะท้องเสียง่ายถ่ายเหลวง่าย นั่นเองค่ะ

           ส่วนอาหารบางอย่างที่คุณแม่กินแล้วมีอาการร้อนในมากขึ้น เป็นเพราะขณะนั้นภูมิคุ้มกันในร่างกายของคุณแม่ต่ำลงค่ะ และอาหารทอด โดยเฉพาะอาหารที่มันจัด ๆ มีรสเผ็ดมาก ๆ หรือผักผลไม้บางอย่าง เช่น ขนุน ทุเรียน หรือของร้อน ๆ ก็จะกระตุ้นให้คุณแม่มีอาการร้อนในได้ไวขึ้น

          ช่องปากของคุณแม่ไม่สะอาด หลังเข้าไตรมาสที่ 2 ไปแล้ว เหงือกคุณแม่มักจะบวมมาก เป็นสาเหตุให้แปรงฟันลำบาก และแปรงได้ไม่ค่อยสะอาดนัก โดยเฉพาะบริเวณโดนฟันซึ่งเป็นตำแหน่งที่มักมีแบคทีเรียติดเชื้ออยู่ ประกอบกับสภาวะที่ลิ้นเป็นกรดด่างที่เอื้อต่อแผลและเมื่อคุณแม่มีแผลร้อนในก็จะยิ่งหายยาก

           ช่วงที่คุณแม่แพ้ท้องแล้วจะต้องกินมื้อเล็กหลาย ๆ มื้อ จะต้องเคี้ยวอาหารอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นขนมปังกรอบ แถมยังมีอาหารหวาน ๆ อีก สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดฟันผุ มีแบคทีเรียตามช่องปากเหงือกก็จะอักเสบเพิ่มขึ้น กระตุ้นให้เกิดแผลยิ่งช่วง 3-4 เดือนแรกหากแพ้ท้องหนัก ๆ มักแปรงฟันไม่ได้เลย บางคนเพียงได้กลิ่นยาสีฟันก็อาเจียนแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องของการดูแลสุขภาพช่องปากตอนท้องจึงเป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีก

เป็นมากเสี่ยงเหงือกอักเสบเรื้อรัง

           คุณแม่บางคนนอกจากกินไม่ได้แล้ว หากเป็นแผลร้อนในมาก ๆ ยังส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันอีกด้วย บางคนอาจเกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง เนื่องจากแผลในช่องปากส่งผลให้คุณแม่มีกลิ่นปากได้ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบรักษา หลังคลอดไปแล้วก็อาจเกิดปัญหาเรื่องฟันผุ จนเกิดเหงือกอักเสบเรื้อรังได้ โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอดที่คุณแม่อาจจะไม่มีเวลาดูแลตัวเองมากนัก

ป้องกันและรักษายังไงดี

           สำหรับคุณแม่ที่มักเป็นแผลร้อนในบ่อย ๆ สามารถดูแลตนเองได้ดังนี้ค่ะ

           ปรึกษาคุณหมอฟัน เมื่อคุณแม่พบความผิดปกติในช่องปากแม้เป็นเพียงเล็กน้อยก็ต้องรีบแจ้งให้หมอฟันทราบค่ะ เพื่อคุณหมอจะจัดยาสำหรับดูแลช่องปาก และฟันให้อย่างถูกต้อง

          หมั่นบ้วนปากเสมอ โดยหลังจากพบคุณหมอฟันมาแล้ว คุณหมอจะจัดน้ำยาบ้วนปากให้ การบ้วนปากบ่อย ๆ จะช่วยลดเชื้อโรคและแบคทีเรียในช่องปากได้

           เปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ เนื่องจากขณะตั้งครรภ์เหงือกของเราจะบวมมาก เพราะเส้นเลือดมากกว่าปกติ และเมื่อคุณแม่แปรงฟันก็อาจทำให้มีเลือดออกขึ้นมาได้ หากเป็นหนัก ๆ เข้า ก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกคาวจนไม่อยากจะแปรงฟันอยากอาเจียน และไม่เจริญอาหารได้ค่ะ ดังนั้นแปรงสีฟันของคุณแม่จะต้องมีขนแปรงที่อ่อนนุ่มอยู่เสมอ เพื่อช่วยให้สามารถแปรงตัวเหงือกได้

           แต่สำหรับคุณแม่ที่แพ้ท้องหนัก ๆ และไม่สามารถแปรงฟันได้ ให้เลือกใช้น้ำยาบ้วนปากหรือยาสีฟันกลิ่นที่คุณแม่ชอบ ก็จะช่วยลดอาการแพ้ได้ ที่สำคัญอย่าลืม เลือกยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรค์ด้วยนะคะ จะได้ดูแลทั้งเหงือกและฟันไปพร้อมกัน

           อย่างไรก็ตามคุณแม่ควรเคี้ยวอาหารอย่างช้า ๆ นะคะ เพื่อให้ได้ลิ้มรสชาติของอาหารสุดโปรดและป้องกับการกระทบกระทั่งของฟัน ลิ้น และกระพุ้งแก้มที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดแผลในช่องปากด้วยค่ะ



          
     




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 31 ฉบับที่ 364 พฤษภาคม 2556


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ร้อนใน...ปัญหาใหญ่ของแม่ท้อง อัปเดตล่าสุด 25 มิถุนายน 2556 เวลา 14:49:04 31,962 อ่าน
TOP