x close

อ่านหนังสือลูกฉลาด แม่สมองดี

อ่านนิทาน
มากระตุ้นพัฒนาการลูกน้อยในด้านภาษาด้วยการอ่านนิทานให้ลูกฟังกันดีกว่า


อ่านหนังสือลูกฉลาด แม่สมองดี (modernmom)

เรื่อง กิงกาญจน์ ศรีปริญญาศิลป์

          คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะว่า สมองของลูกน้อยในวัยแรกเกิดนั้นมีน้ำหนักสมองประมาณ 340 กรัม แต่มีเซลล์สมองประมาณแสนล้านเซลล์ ทุกเซลล์นั้นเชื่อมโยงกันโดยสมองของลูกน้อยเปรียบเสมือนห้องว่าง ๆ ห้องหนึ่ง กระทั่งสร้างเครือข่ายเซลล์ประสาทใหม่ ๆ แตกแขนงเชื่อมโยงกันจนสามารถเรียนรู้และแสดงศักยภาพได้อย่างมหาศาลเมื่ออายุครบ 1 ขวบ และการที่ลูกน้อยจะมีศักยภาพที่ดีได้นั้นต้องได้รับการกระตุ้นพัฒนาการในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านภาษา การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และการพัฒนาด้านอารมณ์กันสังคม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจนึกไม่ถึงว่า "กิจกรรมการอ่านนิทาน" นั้นเป็นกิจกรรมที่สามารถพัฒนาทักษะ 3 ด้านนี้ไปพร้อม ๆ กันได้อย่างน่าทึ่ง แถมให้ประโยชน์ทั้งกับคุณลูกและคุณแม่ไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย

Baby

ฟังพ่อแม่อ่านนิทาน เพิ่มศักยภาพให้สมองลูก

          การอ่านนิทานให้ลูกฟังนั้นเป็นกิจกรรมง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกวันและได้ประโยชน์มากมาย ซึ่งมีงานวิจัยจากหลายแห่งที่ระบุว่าการที่เด็ก ๆ ได้ฟังนิทานก่อนนอนนั้นจะได้รับการพัฒนาด้านภาษาอย่างสูง เพราะการฟังนิทานนี้เองที่จะทำให้ลูกน้อยได้รู้จักรูปประโยคการใช้ภาษาและความหมายของคำที่ถูกต้องและรวดเร็วกว่าเด็กที่ไม่เคยฟังนิทานก่อนนอน

          ทุกครั้งที่เรื่องราวจากนิทานได้เริ่มต้นขึ้น น้ำเสียงของคุณพ่อหรือคุณแม่จะช่วยสร้างจินตนาการให้กับลูกน้อยเพื่อรับรู้สิ่งที่ยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน ลูกน้อยจะเกิดความรู้สึกตื่นเต้น สนใจและปลูกฝังให้เกิดความช่างคิดช่างสังเกตโดยไม่รู้ตัว กิจกรรมเล็ก ๆ วันละไม่กี่นาทีนี้เองที่ช่วยให้ลูกได้สร้างความฉลาดทั้งทางปัญญา (IQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ไปพร้อม ๆ กันทีละเล็กละน้อย

          ในช่วงแรกคุณพ่อคุณแม่อาจหานิทานที่สนุกน่าสนใจและอ่านซ้ำไปมาในเรื่องเดียวจนกว่าลูกจะจำเรื่องราวทั้งหมดได้ หรือจนกว่าจะเข้าใจเนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบ จะยิ่งทำให้ลูกได้รับทักษะการฝึกจับประเด็นได้เร็วขึ้น แต่หากลูกยังเล็กจนเกินกว่าจะเข้าใจความหมายของคำก็ยังถือว่า นิทานได้สร้างสมาธิ ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เด็กเพื่อจะต่อยอดในอนาคตได้

          บางครั้งในการอ่านนิทานอาจฝึกฝนให้ลูกได้เปิดหน้ากระดาษเอง หรือใช้อุปกรณ์การเล่าเพิ่มเติม เช่น ตุ๊กตา กระดาษ การวาดรูประบายสีประกอบ กิจกรรมเหล่านี้ยังช่วยเสริมให้เกิดการใช้กล้ามเนื้อสร้างสรรค์ผลงานด้านศิลปะประกอบอย่างที่เด็ก ๆ ชอบ

          การอ่านนิทานให้ลูกฟังยังถือเป็นการสร้างช่วงเวลาดี ๆ ให้กับคนในครอบครัว เป็นเวลาที่ลูกน้อยจะรับรู้และจดจำได้ว่าเขาได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากพ่อแม่ เป็นเวลาที่จะสร้างความรักความผูกพันที่จะนำเด็กไปสู่ความเชื่อมั่นและความแข็งแรงทางจิตใจสูงอีกด้วย

Mom

อ่านนิทานให้ลูกฟัง เพิ่มพลังสมองให้คุณแม่

          Divya นักเขียนชื่อดังจากหนังสือเรื่อง Ten Benefits of Reading นั้นขนานามให้กับการอ่านว่า คือ "กระบวนการทางจิตใจที่ทรงพลัง" อย่างมาก เพราะเวลาที่สมองจะถูกใช้งานในแบบที่ผลักดันให้ค้นหาเหตุและผลให้กับสิ่งที่ไม่คุ้นเคย และการอ่านนั้นเป็นการเพิ่มพูนสติปัญญาให้มากขึ้นทุกครั้งที่ลงมืออ่าน

          การอ่านหนังสือให้ลูกฟังนั้นเป็นกิจกรรมที่น่ามหัศจรรย์อย่างที่คุณแม่ทั่ว ๆ ไปอาจนึกไม่ถึง เพราะการอ่านนี้เองที่ได้ช่วยฟื้นฟูความทรงจำที่อาจขาดหายไปบ้างระหว่างการทำงานหนัก หรือภาวะความเครียดในชีวิตประจำวัน เป็นการทบทวนคำศัพท์ให้แม่นยำ และยังช่วยให้เกิดความเข้าใจในเรื่องราวรอบตัวที่หลากหลายขึ้น

          การอ่านยังช่วยเสริมสร้างให้เกิดจินตนาการ การอ่านที่ตั้งอกตั้งใจจะช่วยดึงตัวตนเข้าไปอยู่ในโลกของนิทานที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ร่าเริง เบิกบาน คุณแม่ที่อ่านนิทานเป็นประจำมักจะพบว่าตัวเองรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย

          หลายเหตุผลนี้เองที่ทำให้ค้นพบว่าคุณพ่อคุณแม่ที่อ่านหนังสือให้ลูกฟังเสมอนั้น จะได้รับการฟื้นฟูพลังสมองไปในตัว ซึ่งการอ่านโดยเฉพาะการอ่านออกเสียงนั้น ยังช่วยให้เกิดการพัฒนาในด้านการออกเสียง คุณพ่อคุณแม่ควรเรียนรู้วิธีการอ่านที่มีจังหวะจะโคนสนุกสนานเร้าใจสำหรับเด็ก ยิ่งทำได้ดีเท่าไร ประโยชน์ที่กลับเข้ามาสู่พ่อแม่นั้นคือการทำให้การพูดชัดเจนขึ้น มีเสน่ห์มากขึ้น สร้างสมาธิ เรียงลำดับความคิด และยังได้รับความรู้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

          อย่างไรก็ตามการอ่านนั้นไม่ได้จำกัดเฉพาะนิทานเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นนิทาน เรื่องสั้น นิยาย การ์ตูน บทความ หรือการเล่าเรื่องราวโดยไม่ต้องใช้หนังสือ จะช่วยให้คุณแม่มีความจำที่ดีขึ้น และช่วยบริหารสมองให้ลดความเสี่ยงของการเป็นอัลไซเมอร์อีกด้วย แถมคุณแม่ที่อ่านหนังสือให้ลูกฟังเป็นประจำยังพบว่าเป็นคุณแม่มือโปรที่บริหารเวลากับจัดระเบียบวินัยให้ชีวิตได้ดีเป็นเลิศอีกด้วย ไม่เชื่อก็ลองดูนะคะ




 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.19 No.227 กันยายน 2557

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อ่านหนังสือลูกฉลาด แม่สมองดี อัปเดตล่าสุด 7 ตุลาคม 2557 เวลา 15:21:32 1,641 อ่าน
TOP